เมื่อคุณแม่รู้ตัวว่าตัวเองตั้งครรภ์ ก็ควรเริ่มดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจให้ดีอยู่เสมอ เพราะสิ่งเหล่านี้จะส่งผลไปยังทารกในครรภ์นั่นเอง เรามาดูกันค่ะว่ามีวิธีอะไรบ้างที่คุณแม่จะสามารถทำตามเพื่อให้ทารกคลอดออกมาอย่างแข็งแรง
สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติเมื่อทราบว่าตั้งครรภ์
✨ฝากครรภ์ทันทีที่ทราบ
การฝากครรภ์นั้นยิ่งเร็วยิ่งดีกับตัวคุณแม่และลูกน้อย เพราะนั่นแปลว่าคุณแม่จะสามารถตรวจได้ว่าทารกในครรภ์👶มีความปกติดีหรือไม่ รวมถึงสามารถคอยติดตามสุขภาพของตัวเองได้อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งยังได้รับคำแนะนำจากแพทย์👩⚕️ว่าควรดูแลครรภ์อย่างไร📅รวมถึงการวางแผนดูแลให้เหมาะสมตลอดทั้งการตั้งครรภ์
✨ทานอาหารให้ครบหมู่
คุณแม่ควรได้รับพลังงาน 2,050 กิโลแคลอรีต่อวัน🍚ในช่วง 1-3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ รวมทั้งควรรับประทานอาหารให้มีสารอาหารครบ ดังนี้ คาร์โบไฮเดรตจากแป้ง ควรเลือกข้าวไม่ขัดสี โปรตีนจาก ไข่ นม เนื้อสัตว์ ใยอาหารจากผักผลไม้ แคลเซียม ไอโอดีน ธาตุเหล็ก กรดโฟลิก
✨คุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์
โดยดูจาก BMI ก่อนตั้งครรภ์และคุมให้น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ดังต่อไปนี้ ตลอดการตั้งครรภ์ 📅
BMI < 18.5 น้ำหนักควรขึ้น 12.5-18 กิโลกรัม
BMI 18.5-24.9 น้ำหนักควรขึ้น 11.5-16 กิโลกรัม
BMI 25-29.9 น้ำหนักควรขึ้น 7-11.5 กิโลกรัม
BMI > 30 น้ำหนักควรขึ้น 5-9 กิโลกรัม
**ความหมายของ BMI = น้ำหนักเป็นกิโลกรัม หารด้วย ส่วนสูงเป็นเมตร ยกกำลัง 2
คุณแม่ควรแฮปปี้ทั้งกายและใจ
✨ดูแลให้ถูกสุขลักษณะ
คุณแม่ควรอาบน้ำให้ร่างกายสะอาดและสดชื่น🙂 หากที่ๆคุณแม่อยู่มีอากาศหนาวก็ควรอาบน้ำอุ่น และคอยให้ร่างกายอุ่นอยู่เสมอ การแต่งกายนั้นไม่ควรแต่งกายให้รัดแน่น หรืออึดอันจนเกิดไป หลีกเลี่ยงรองเท้าส้นสูงเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ และอย่าลืมดูแลสุขภาพช่องปาก🪥คอยแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอนะคะ
✨จิตใจแจ่มใส
คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงความเครียดระหว่างการตั้งครรภ์ เพราะความเครียดจะทำให้สารเคมีในร่างกายเปลี่ยนแปลงและจะส่งผลต่อทารกในครรภ์ ซึ่งคุณแม่เองก็จะมีอาการปวดหัว ไม่มีแรง นอนไม่หลับ อ่อนเพลียได้☹️รวมทั้งความเครียดอาจส่งผลให้เด็กมีความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนด ทำให้น้ำหนักเด็กนอนเมื่อแรกเกิด และอาจเสี่ยงในการมีพัฒนาการล่าช้า หรือ บกพร่องทางภาษาได้คะ💬