post-title

อารมณ์แปรปรวนในคุณแม่ตั้งครรภ์

คุณแม่หลายๆท่านอาจมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์เมื่อตั้งครรภ์🤰 คุณอาจหัวเราะแล้วอยู่ๆ ก็ร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล โดยส่วนมากจะพบภาวะอารมณ์แปรปรวนในสัปดาห์ที่ 6 – 10 ของการตั้งครรภ์📈 และจะลดลงในช่วงไตรมาสที่ 2 จากนั้นก็จะเกิดอารมณ์แปรปรวน🥴อีกครั้งเมื่อใกล้คลอด ภาวะอารมณ์แปรปรวนระหว่างการตั้งครรภ์นั้นเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นคุณแม่ไม่ต้องกังวลจนเกินไปนะคะ  


สาเหตุของภาวะอารมณ์แปรปรวนระหว่างตั้งครรภ์

✨ฮอร์โมน

หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะอารมณ์แปรปรวน คือการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่🤰  โดยเมื่อตั้งครรภ์ก็จะมีการเพิ่มขึ้น📈ของปริมาณของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในเลือด ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้จะช่วยในการเตรียมร่างกายของคุณแม่สำหรับการตั้งครรภ์นั่นเอง แต่ฮอร์โมนเหล่านี้ก็สามารถส่งผลกระทบทางอารมณ์ได้เช่นกัน โดยจะทำให้รู้สึกหงุดหงิด🥴 อ่อนไหว หรือโกรธเคืองได้ง่ายกว่าปกติ

✨ความวิตกกังวล

คุณแม่อาจตื่นเต้นและมีความสุขในการเริ่มต้นสร้างครอบครัว แต่ในขณะเดียวกันก็อาจมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดูแลครรภ์🤰 การงาน ที่อยู่อาศัย หรืออนาคตข้างหน้า สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดภาวะอารมณ์แปรปรวนได้นั่นเองค่ะ


สาเหตุอื่นๆ ของการเกิดอารมณ์แปรปรวน

✨การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย

เมื่อมีการตั้งครรภ์ร่างกายของคุณแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับลูกน้อย🤰 โดยหลายๆ คนอาจประสบกับอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย อาการแพ้ท้อง อาการคันผิวหนัง บางท่านอาจหงุดหงิดเพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่สวยหรือกลัวว่าจะไม่สามารถกลับไปเป็นอย่างเดิมได้

✨ความอ่อนเพลีย

ความเครียดและความรู้สึกไม่สบายตัวส่งผลให้คุณแม่มีปัญหาในการนอนหลับ💤 เมื่อได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอก็จะมีผลกระทบต่ออารมณ์ของคุณแม่ในที่สุด


การรับมือกับอารมณ์แปรปรวน

✨ไม่ตำหนิตนเอง

ให้คุณแม่คอยระลึกไว้ว่าการที่อารมณ์ของคุณแม่แปรปรวนนั้นส่วนใหญ่แล้วเกิดจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไปและอยู่เหลือความควบคุมของคุณแม่ ดังนั้นให้พยายามผ่อนคลาย โดยนึกถึงสิ่งต่างๆที่ทำให้มีความสุข หรืออาจไปเที่ยวเล่นช้อปปิ้ง👜กับเพื่อนๆก็ได้ค่ะ 

✨ออกกำลังกาย

คุณแม่สามารถออกกำลังกายเบาๆ ในท่าที่เหมาะสมกับผู้ที่ตั้งครรภ์ โดยการออกกำลังกายจะทำให้สมองหลั่งสารเคมีที่ทำให้รู้สึกดี อาจลองเข้าคลาสโยคะ🧘ว่ายน้ำ หรือเดินเล่นกับคนในครอบครัวก็ได้นะคะ

✨การนอนหลับพักผ่อน

คุณแม่จะต้องนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ เพราะการนอนหลับ💤ไม่เพียงพอจะยิ่งทำให้คุณแม่เหนื่อยและเพลีย จึงยิ่งหงุดหงิดได้ง่าย หากมีเวลาให้นอนกลางวัน โดยให้งีบสั้นๆ เพื่อทดแทนหากคุณแม่นอนไม่เพียงพอในเวลากลางคืนค่ะ 

✨อาหารการกิน

นอกจากการนอนหลับพักผ่อนแล้ว การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพโดยเลือกอาหารที่มาจากธรรมชาติ🥗แทนอาหารแปรรูปที่ไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย จะทำให้ร่างกายของคุณแม่คืนความสมดุล และทำให้อารมณ์เสภียรขึ้นด้วยค่ะ 

✨การพูดคุย

เชื่อหรือไม่ค่ะว่าการพูดคุยเป็นการแก้เครียดที่ดีที่สุดเลยค่ะ ลองหาเพื่อนหรือคนในครอบครัวที่ไว้ใจแล้วลองระบายดู☁️ คุณจะพบว่ามีบุคคลรอบข้างที่คอยเข้าใจ ให้กำลังใจ และคอยอยู่เคียงข้างคุณแม่ตลอดเลยค่ะ