งานวิจัยพบว่าแม้ว่าทารกจะอยู่ในครรภ์ก็สามารถได้ยินเสียงภายนอกได้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากสิ่งแวดล้อมต่างๆที่อยู่ล้อมตัว หรือจะเป็นเสียงของคุณแม่ นอกจากนั้นอารมณ์ของคุณแม่ยังส่งผลต่ออารมณ์ของลูกด้วย หากอารมณ์ดีลูกก็จะอารมณ์ดีตามนั่นเองค่ะ😄
การกระตุ้นพัฒนาการจากภายนอก
✨ทารกในครรภ์สามารถได้ยินเสียงได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ทารกในครรภ์👶จะสามารถได้ยินเสียงภายนอกได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 23 เป็นต้นไป และหลังสัปดาห์ที่ 28 ทารกในครรภ์จะสามารถกลั่นกรองความคิดได้เอง ดังนั้นทารกที่คลอดก่อนกำหนดตั้งแต่สัปดาห์ที่ 28 เป็นต้นไปจะเป็นปกติ เพราะสมองมีการพัฒนาสมบูรณ์แล้ว เพียงแต่จะยังไม่สามารถหายใจ💨ได้เอง
✨ใช้เสียงของคุณแม่กระตุ้น
คุณแม่สามารถใช้เสียงของคุณแม่กระตุ้นให้ลูกขยับตัวได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 6 เดือนขึ้นไป จะเห็นว่าทารกในครรภ์จะเคลื่อนไหวไปมาเมื่อถูกกระตุ้น หากพูดกับทารกในครรภ์ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะเห็นการดิ้นและการขยับบริเวณหน้าท้องได้นะคะ
ทำความเข้าใจลูกในครรภ์
✨ทารกสามารถรับรู้รสชาติ และตอบสนองต่อแสงได้
ทารกในครรภ์สามารถรับรู้รสชาติของอาหารได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นรสเผ็ด เปรี้ยว หวาน แม้ว่าอาจจะยังรับรู้รสได้ไม่มากเท่ากับเด็กที่คลอดแล้ว และหลังสัปดาห์ที่ 20 หรือเมื่อครบ 5 เดือนของการตั้งครรภ์ ทารกในครรภ์👶จะสามารถรับรู้แสงจากภายนอกได้แล้ว นอกจากนั้นทารกในครรภ์ยังสามารถกระพิบตาตอบสนองต่อแสงได้อีกด้วย
✨คุณแม่และลูกในครรภ์
จากการวิจัยพบว่าอารมณ์และความคิดของคุณแม่มีผลต่อชีวิตและความคิดของลูกในครรภ์ ฮอร์โมนและอารมณ์ของคุณแม่เกี่ยวพันกับลูกน้อยในครรภ์ ดังนั้นให้คุณแม่ทำใจสบายๆ อย่าเครียดไปนะคะ😄
อารมณ์ของแม่ระหว่างตั้งครรภ์
✨ความเครียดของแม่
คุณแม่อาจมีความกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ และอาจมีความเครียดเรื่องอื่นๆ มีอารมณ์เศร้า และความทุกข์ ซึ่งอารมณ์เหล่านี้มักมีผลเสีย💨 ต่อลูกในครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทารกที่ใกล้คลอด คุณแม่บางคนแท้งเพราะความเครียด หรือ ทารกอาจเสียชีวิตทันทีหลังคลอดเพราะทารกมีภาวะเครียดก็เป็นได้ค่ะ
✨ความเครียดของลูก
ทารกในครรภ์รับความเครียดจากแม่ผ่านฮอร์โมนโดยตรง งานวิจัยยังพบว่ามารดาที่มีความเครียดสะสมเมื่อคลอดทารกออกมาทารก👶ก็มักจะขี้หงุดหงิด เลี้ยงยาก อารมณ์ร้าย ดังนั้นให้คุณแม่พยายามปล่อยวางและมีความสุข😄จะดีกว่านะคะ แนะนำให้คุณแม่ลองพูดคุยกับลูกในครรภ์ หรือเปิดเพลงให้ฟังดูก็ได้นะคะ