ในช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์คุณแม่จะถูกดึงแคลเซียมไปยังลูกน้อยจำนวนมาก ทำให้อาจเกิดฟันผุได้🦷 ในช่วงที่ตั้งครรภ์นั้นคุณแม่จะมีวิธีดูแลตัวเองได้อย่างไรบ้างวันนี้เรามาดูกันค่ะ
สุขภาพช่องปาก
หากฟันผุแล้วไม่รักษา
คุณแม่ที่มีฟันผุ🦷แล้วไม่ได้รับการรักษาก็อาจลามไปจนถึงเหงือและการเป็นโรคเหงือกได้ ซึ่งจะส่งผลกับลูกในครรภ์ เพราะหากไม่ยอมรักษา จะมีโอกาสครรภ์เป็นพิษสูง และอาจคลอดก่อนกำหนด หรือ ลูกน้อยอาจตัวเล็กได้
รักษาความสะอาดของช่องปาก
ดังนั้นคุณแม่จึงจำเป็นต้องรักษาความสะอาดของช่องปาก👄เป็นอย่างดี โดยหลังทานอาหารทุกมื้อควรแปรงฟัน🪥ให้สะอาด และอย่าลืมใช้ไหมขัดฟัน เมื่อมีปัญหาสุขภาพฟันให้ไปพบทันตแพทย์👩⚕️ทันที โดยอย่าลืมแจ้งกับคุณหมอว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่ เพราะการเอ็กซเรย์อาจอันตรายกับลูกในครรภ์ได้
การดูแลรักษา
การดูแลรักษาฟัน
ในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่าลืมทานแคลเซียมให้เพียงพอ เพราะลูกน้อยในครรภ์จะได้รับแคลเซียมจากคุณแม่🤰ผ่านกระแสเลือด
อย่าลืมแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันทุกวัน แปรงให้สะอาด🪥ทั้งภายในปากและขอบเหงือก ควรแปรงฟันหรือบ้วกปากหลังรับประทานอาหารเสร็จทุกมื้อ
ทำอย่างไรเมื่อมีอาการอาเจียนแพ้ท้อง
หากคุณแม่มีอาการอาเจียนแพ้ท้อง ควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าแทนเพื่อลดปริมาณการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะอาหารที่ย้อนขึ้นมาที่ช่องปาก👄
ควรทำอย่างไร
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีลักษณะเหนียว
คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีลักษณะเหนียวที่อาจติดฟันได้ และควรหลีกเลี่ยงอาหารหรือขนมที่มีรสหวาน🍧มากเกินไปเพื่อป้องกันฟันผุ
ตรวจสุขภาพฟันตอนไหนดี?
ควรนัดพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟัน🦷 แต่เนื่องจากในไตรมาสแรก (3 เดือนแรก) จะเป็นช่วงที่ทารกในครรภ์กำลังพัฒนาส่วนต่างๆของร่างกาย ดังนั้นแนะนำให้ไปพบทันตแพทย์👩⚕️ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์ (4-6เดือน) โดยอย่าลืมแจ้งให้ทันตแพทย์และเจ้าหน้าที่ทราบว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่🤰
การไม่ดูแลฟัน🦷และเหงือกและปล่อยทิ้งอักเสบเรื้อรังเป็นเวลานาน อาจทำให้เชื้อโรคกระจายทางกระแสเลือดไปยังอวัยวะอื่นๆได้ ดังนั้นนอกจากจะดูแลสุขภาพร่างกายอย่างอื่นแล้ว การดูแลสุขภาพช่องปากก็เป็นสิ่งที่คุณแม่ไม่ควรละเลยนะคะ
ดังนั้นหากคุณแม่พบว่าตัวเองมีปัญหาสุขภาพช่องปาก👄ควรไปพบทันตแพทย์👩⚕️ทันทีนะคะ