คุณพ่อคุณแม่อาจมีความสงสัยว่าการเด็กคลอดแบบธรรมชาติกับการผ่าคลอดนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร และควรทำอย่างไรให้เด็ก👶ที่ทำการผ่าคลอดมีความแข็งแรงเหมือนเด็กที่คลอดธรรมชาติ วันนี้เราไปดูกันเลยค่ะ
เด็กคลอดธรรมชาติ กับเด็กที่ผ่าคลอดมีความแตกต่างกันหรือไม่?
✨เทคโนโลยีการผ่าคลอด
เทคโนโลยีทางการแพทย์👨⚕️ในปัจจุบันนี้มีความปลอดภัยและก้าวไกลมากขึ้น จึงทำให้คุณแม่หลายๆท่านมีสามารถเลือกที่จะผ่าตัดคลอดและการผ่าตัดคลอดก็เป็นที่นิยมมากขึ้น
✨ผ่าคลอด พัฒนาการช้ากว่าจริงไหม?
แต่ก็มีข้อสงสัย🤔และข้อกังวลมากมายว่าเด็กที่ผ่าคลอดนั้นจะมีพัฒนาการที่ช้ากว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติ ซึ่งก็มีบางส่วนที่เป็นความจริง แต่ก็ยังมีเหตุผลที่เราจะต้องไปทำความเข้าใจกันให้มากขึ้นกันค่ะ
ทำไมเด็กที่ผ่าคลอดจึงมีพัฒนาการที่สะดุดลง?
✨ผ่าคลอดมีโอกาสป่วยง่ายกว่า..?
จริงๆแล้วเด็กที่ทำการผ่าคลอดนั้นจะมีโอกาสเจ็บป่วยง่ายกว่าเด็กคลอดธรรมชาติ และมีโอกาสเสี่ยงขาดภูมิต้านทานถึง 20% เลยค่ะ เพราะโดยปกติแล้วเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ🌳จะได้รับจุลินทรีย์โพรไบโอติก(Probiotic) ที่อยู่บริเวณช่องคลอดของคุณแม่เมื่อคลอดออกมา
✨จุลินทรีย์โพรไบโอติกช่วยอะไรได้บ้าง?
จุลินทรีย์โพรไบโอติกนี้จะช่วยให้ทารกแรกเกิดพัฒนาภูมิต้านทานตั้งแต่แรกคลอด และเด็กที่ผ่าคลอดจะพลาดโอกาสในการได้จุลินทรีย์โพรไบโอติกจึงทำให้มีโอกาสป่วยง่ายนั่นเองค่ะ🥲 ซึ่งเมื่อลูกป่วยก็จะทำให้พัฒนาการสะดุดลงแต่ก็ไม่ต้องกังวลมากจนเกินไปนะคะ เพราะเรามีวิธีเพิ่มภูมิต้านทานให้เด็ก👶ที่ทำการผ่าคลอดได้ค่ะ
วิธีเพิ่มภูมิต้านทานให้ลูกที่ผ่าคลอด
✨วิธีเพิ่มภูมิต้านทาน
วิธีเพิ่มภูมิต้านทานให้กับทารกที่ผ่าคลอดนั้นคือ คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจเรื่องของโภชนาการค่ะ ซึ่งอาการที่สามารถเพิ่มภูมิต้านทานที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือ นมแม่นั่นเอง นม🥛แม่นั้นขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก และยังประกอบไปด้วยสารอาหารที่เหมาะสมและจำเป็นกับลูกน้อยอีกด้วย นมแม่ประกอบไปด้วย จุลินทรีย์โพรไบโอติก รวมถึง ใยอาหารพรีไบโอติกที่จะทำงานร่วมกับซินไบโอติก ทำให้สามารถเพิ่มภูมิต้านทานของทารก👶ให้แข็งแรงขึ้นได้ค่ะ
✨ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
แต่หากคุณพ่อคุณแม่กังวลว่า น้ำนม🥛ของคุณแม่มีน้อยและอาจไม่พอต่อความต้องการของลูกน้อย ให้คุณแม่ลองปรึกษากับคุณหมอ👨⚕️เพื่อรับคำแนะนำการรับประทานที่เหมาะสม เพื่อให้ลูกทานเสริมได้นะคะ