ผู้ปกครองหลายๆท่านมองว่าไม่ควรให้ลูกเล่นปืน เพราะกลัวว่าลูกจะก้าวร้าว หรือมีพฤติกรรมชอบใช้ความรุนแรง และยังดูอันตราย ซึ่งบางท่านก็มองว่าเป็นเพียงการเล่นบทบาทสมมติ และเป็นกิจกรรมของเด็กผู้ชาย ซึ่งจริงๆแล้วผู้ปกครองควรจะให้น้องเล่นมือไหม เราไปดูกันค่ะ
จริงๆแล้วควรให้เด็กเล่นปืนของเล่นหรือไม่?
เมื่อเด็กอายุ 2-3 ขวบ เด็กผู้ชายมักจะเล่นต่อสู้ซึ่งการเล่นแบบนี้อาจเป็นเพียงการแสดงความกล้าหาญผ่านจินตนาการและยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่าการเล่นต่อสู้เมื่อตอนเป็นเด็ก จะนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าวจริงๆ และผู้ใหญ่หลายคนที่เคยเล่นยิงปืน🔫มาก่อนก็ไม่ได้เป็นอาชญากรเมื่อโตขึ้น
โดยเด็ก👶ส่วนใหญ่มักจะแสดงพฤติกรรมความก้าวร้าวและพฤติกรรมความรุนแรงจากสื่อ ซึ่งหากยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุให้ลูกอยากเล่นมากขึ้น นอกจากนั้นการเล่นบทบาทสมมติยังมีส่วนช่วยในเรื่องของพัฒนาการของเด็ก ทำให้เขารู้บทบาททางเพศ และ บทบาทของสังคม
แต่อย่างไรก็ตามผู้ปกครองก็ควรมีกฎระเบียบ มีขอบเขต และข้อควรระวังเมื่อให้ลูกเล่นปืน🔫ของเล่นโดยก่อนเล่นควรจะทำความเข้าใจกับลูกก่อน โดยพ่อแม่👬🏽บางคนก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้เล่นปืนของเล่นเพราะกังวลว่าอาจจะเพิ่มพฤติกรรมก้าวร้าว
ควรกำหนดเกณฑ์อย่างไรเมื่อจะให้ลูกเล่นปืนของเล่น
สอนลูกให้แยกแยะระหว่างปืนของเล่นและของจริง
ให้ลูกรู้จักแยกแยะระหว่างปืนของเล่นและของจริง โดยบอกถึงลักษณะภายนอกและสีของปืน และไม่ควรนำปืนของจริงมาให้ลูกเห็นและเก็บให้พ้นมือเด็ก✋
เลือกปืนที่มีความปลอดภัย
ไม่ใช่ว่าปืนทุกชนิดมีความปลอดภัยดังนั้นเราควรจะเลือกปืน🔫ที่มีความปลอดภัยสูง เช่น เลือกปืนฉีดน้ำที่มีความแรงของน้ำน้อย หรือ ปืนที่ยิงแล้วมีเสียง
ไม่ให้ลูกทำร้ายคนอื่นด้วยปืนของเล่น
อธิบายให้ฟังว่าการชี้ปืนใส่หน้าคนเป็นสิ่งที่ไม่ควร และไม่ควรทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเดือดร้อน รวมถึงไม่ควรรังแกสัตว์🐕🦺ด้วย
หากไม่อยากให้ลูกเล่นปืนควรทำอย่างไร
จัดหาของเล่นอย่างอื่นมาแทนที่
หากลูกไม่ยอมและไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ก็อาจซื้อปืนปลอมให้ลูกเล่น โดย จะต้องดูแตกต่างจากปืนของจริงเพื่อให้ลูกแยกแยะได้และไม่ให้คนอื่นตกใจกลัว😨
อธิบายพร้อมเบี่ยงเบนความสนใจ
หากเห็นว่าลูกเล่นปืน🔫ปลอมอยู่ ค่อยๆเกลี่ยกล่อมโดยการอธิบายกับลูกว่าปืนทำให้คนรอบข้างกลัว เพราะปืนจริงๆสามารถทำร้ายคนได้ พร้อมกับเบี่ยงเบนความสนใจโดยการนำของเล่นอย่างอื่นมาให้เล่น
ซึ่งไม่ว่าจะอนุญาติให้ลูกเล่น หรือไม่อยากให้ลูกเล่น คุณพ่อคุณแม่ควรรับมือด้วยความใจเย็นและพูดคุยกันอย่างมีเหตุมีผลเพื่อให้ลูกมีพัฒนาการอย่างสมวัยค่ะ