post-title

ตรวจครรภ์อย่างไรจึงจะได้ผลแม่นที่สุด?

การทำการทดสอบการตรวจครรภ์เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายตั้งตารอ และคาดหวังผลอย่างมาก ซึ่งหลายๆคนอาจเคยได้ยินมาว่าการตรวจครรภ์ในตอนเช้านั้นจะเป็นช่วงเวลาที่ดีและแม่นที่สุด ซึ่งในวันนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และเราจะสามารถตรวจครรภ์ตอนเย็นได้หรือเปล่า ไปดูกันเลยค่ะ 


ความแม่นยำของชุดทดสอบการตั้งครรภ์

ความแม่นยำของชุดตรวจครรภ์

หากดูจากคู่มือคำแนะนำในกล่องชุดตรวจการตั้งครรภ์🤰 คุณพ่อคุณแม่จะพบว่าส่วนใหญ่ชุดตรวจครรภ์จะมีการรับรองว่าผลแม่นยำถึง 99 เปอร์เซ็นต์ เมื่อตรวจในวันที่ประจำเดือนของคุณแม่ขาด แต่จะไม่รับรองหากใช้หลังจากการมีสัมพันธ์ในทันที วิธีการตรวจคือ หากคุณแม่คาดว่าประจำเดือน🩸จะมาได้วันที่ 19 คุณแม่ควรรอให้ถึงวันที่ 20 และตรวจในตอนเช้า 

ซึ่งความแม่นยำของชุดตรวจครรภ์นั้นจะขึ้น อยู่กับ...

ระยะเวลาของการตกไข่🥚

ระยะเวลาที่คุณแม่ทำการทดสอบ

ช่วงเวลาที่คุณแม่ใช้ทดสอบ เช้า หรือ เย็น🕠

รวมถึงคุณแม่ได้ทำตามคำแนะนำอย่างถูกต้องหรือไม่


ตรวจตอนไหนดีที่สุด? ตรวจหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ไหม?

ตรวจหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ไหม?

เราเข้าใจว่าคุณพ่อคุณแม่ใจร้อนอยากได้รับข่าวดีให้ไว แต่การทดสอบหลังมีเพศสัมพันธ์เพียงไม่กี่วันไม่ใช่สิ่งที่แนะนำ ทางที่ดีควรจะรอให้เลยช่วงเวลาที่ประจำเดือนของคุณแม่มักจะมาประจำไปประมาณ 1 อาทิตย์📅เพื่อให้ตรวจได้แม่นยำที่สุด 

โดยหากคุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถอดทนรอจนถึงวันนั้นได้หลังมีเพศสัมพันธ์ให้รอประมาณ 1-2 อาทิตย์จึงจะทำการตรวจค่ะ ซึ่งผลอาจจะไม่ได้ชัดเจนนะคะ 

ตรวจครรภ์ตอนเย็นได้หรือไม่? 

หากคุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถรอได้การตรวจตอนเย็น🕠 หรือตอนกลางคืนก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ว่าความแม่นยำอาจจะน้อยกว่าตอนเช้าเล็กน้อยค่ะ เนื่องจากในตอนเช้าปัสสาวะ🚻ของคุณแม่จะมีความเข้มข้นมากกว่า โดยจะถูกสะสมไว้ระหว่างที่คุณแม่นอนหลับ ซึ่งหากพบว่าผลตรวจในตอนกลางคืนเป็นลบแล้วก็สามารถลองตรวจใหม่ในตอนเช้าได้นะคะ 


ตรวจครรภ์ช่วงไหนจึงจะแม่นที่สุด?

หากคุณแม่ต้องการให้ได้ผลที่แม่นยำและถูกต้องแล้วล่ะก็ ให้ลองทำตามนี้ค่ะ 

เลือกช่วงเวลาตรวจในตอนเช้า🌞

การตรวจครรภ์นั้นจะแม่นที่สุดในตอนเช้า เพราะเมื่อคุณแม่ไม่ได้เข้าห้องน้ำหรือดื่มน้ำบ่อยๆในตอนกลางคืนก็จะส่งผลให้ระดับฮอร์โมนในปัสสาวะเข้มข้นและทำให้ผลการตั้งครรภ์ออกมาแม่นกว่านั่นเองค่ะ

ให้ตรวจหลังรอบประจำเดือนขาด🩸 

เพื่อให้การทดสอบการตั้งครรภ์โดยใช้ปัสสาวะแม่นยำที่สุด คุณแม่ควรให้ประจำเดือนมาล่าช้าไปแล้วเริ่มตรวจไปหลังล่าช้าไปอีก 1 สัปดาก์ ทั้งนี้เพื่อให้มีระดับฮอร์โมนสูงพอที่จะตรวจพบว่าคุณแม่กำลังตั้งครรภ์หรือไม่

มีอาการของการตั้งครรภ์👃

ถ้าคุณแม่มีอาการแพ้ท้อง หรือ มีสัญญาณต่างๆ เช่น มีอาการคลื่นไส้เล็กน้อยตอนเช้า ปัสสาวะบ่อย เจ็บหน้าอก เมื่อยล้า เป็นตะคริว มีความอยากอาหารบางอย่างและเหม็นอาหารบางอย่าง จมูกไวต่อกลิ่น อารมณ์แปรปรวน ปวดหัว ก็ควรลองตรวจดูค่ะ โดยหากลองใช้วิธีที่กล่าวมาทั้งหมดแล้วยังไม่พบผลที่คาดหวังให้รออีก 2-3 แล้วลองตรวจอีกครั้งค่ะ