หลายๆคนอาจมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทานยาคุมกำเนิด ว่าทานยามานานแล้วจะส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้หรือเปล่า? ซึ่งวันนี้เราได้นำคำตอบมาฝากกันแล้วค่ะ
ยาคุมกำเนิด คืออะไร?
ยาคุมกำเนิด หรือ Birth Control Pill
คือยาที่ถูกใช้ในการคุมกำเนิด💊ที่เป็นที่นิยมของผู้หญิง เป็นยาที่จะออกฤทธิ์ควบคุมระบบฮอร์โมนภายในร่างกาย ช่วงในการป้องกันการตั้งครรภ์ชั่วคราว โดยในช่วงที่ทานยา จะทำให้ไม่มีไข่ตก รวมถึงยับยั้งการสุกของไข่ จึงทำให้เชื้ออสุจิไม่สามารถฝังตัวได้นั่นเองค่ะ ซึ่งบางคนก็ทานเพื่อใช้ในการปรับฮอร์โมนก็มีค่ะ
ชนิดของยาคุมกำเนิด
ชนิดฮอร์โมนเดี่ยว
ยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยวจะมีส่วนประกอบของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเท่านั้น ซึ่งใน 4 สัปดาห์จะทานได้ 28 เม็ด จึงทำให้สะดวกต่อการนับเม็ด รับประทานทุกวัน📅
ชนิดฮอร์โมนรวม
ยาชนิดนี้จะต้องรับประทานอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งทำให้ประจำเดือนของผู้หญิงมาตรงเวลา🕰️ รวมถึงช่วยลดอาการปวดประจำเดือน ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมนี้จะประกอบด้วยโปรเจสโตเจนและเอสโตรเจนในเม็ดเดียว
ชนิดเม็ดแบบฉุกเฉิน
ยาคุมชนิดเม็ดแบบฉุกเฉินนี้ เป็นชนิดที่ไม่ควรรับประทานอย่างต่อเนื่อง โดยผู้หญิงควรมีติดตัวไว้เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน เช่น ถุงยางรั่ว ไม่สวมถุงยาง อุบัติเหตุทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งยานี้จะเข้าไปทำให้ฮอร์โมนเพิ่มขึ้นสูงเพื่อลดโอกาสในการตั้งครรภ์ โดยจะต้องรับประทานหลังมีเพศสัมพันธ์ภายใน 72 ชั่วโมงเท่านั้น เพื่อให้ยามีประสิทธิภาพนั่นเองค่ะ💊
ทานยาคุมกำเนิดมานาน ยังสามารถตั้งครรภ์ได้หรือไม่?
รับประทานยาคุมมานานจะทำให้ตั้งครรภ์ยาก?
การทานยาคุมกำเนิดมานานแล้วหยุดรับประทานจะทำให้ตั้งครรภ์ยากนั้นไม่เป็นความจริงนะคะ เพราะยาคุมกำเนิดจะมีฤทธิ์ในช่วงที่เราทาน และหากไม่ทานอย่างต่อเนื่องก็จะทำให้ตั้งครรภ์ได้ง่ายค่ะ ซึ่งยาคุมกำเนิด💊 จะมีฤทธิ์เพียงวันเดียวเท่านั้น นั่นแปลว่าหากวันถัดไปคุณแม่ไม่ทานต่อ ยาก็จะหมดฤทธิ์และสามารถตั้งครรภ์ได้ค่ะ รวมถึงท่านได้ทานยาคุมไม่สม่ำเสมอก็จะส่งผลให้ตั้งครรภ์ได้เช่นกันค่ะ🤰
รับประทานยาคุมมานานๆ มดลูกแห้งจริงไหม?
หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินมาว่าการทานยาคุมนานๆ💊 จะส่งผลให้มดลูกแห้งและทำให้มีลูกยาก ซึ่งก็ไม่เป็นความจิงเช่นกันค่ะ แม้ว่าจะทานยาคุมกำเนิดมานานเมื่อหยุดทานก็จะสามารถตั้งครรถ์ได้ แต่อย่างไรก็ตามก็ควรจะปรึกษากับคุณหมอว่าควรหยุดยานานเท่าไหร่จึงจะสามารถตั้งครรภ์อย่างปลอดภัยได้นะคะ