post-title

คุณแม่ตั้งครรภ์ทานน้ำตาลเทียมได้หรือไม่?

ปัจจุบันมีการใช้น้ำตาลเทียมเพื่อทดแทนความหวานของน้ำตาลกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นการนำมาใส่เครื่องดื่ม มาประกอบอาหาร ซึ่งหลายๆคนอาจจะสงสัยว่า แล้วสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์อยู่ล่ะ สามารถทานได้ไหม ปลอดภัยหรือเปล่า เราไปพบคำตอบกันค่ะ 


ทำความรู้จักกับน้ำตาลเทียม

น้ำตาลเทียม (artificial sweeteners) 

หรือ สารให้ความหวานทดแทน เป็นสารเคมีที่ใส่เพื่อเพิ่มความหวาน🧋 ซึ่งจะมีรสชาติคล้ายน้ำตาลแต่ให้ความหวานมากกว่า น้ำตาลเทียมนั้นมีทั้งแบบมีและไม่มีแคลอรี จึงเป็นทางเลือกแก่ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก รวมถึงเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งนอกจากนั้นยังเป็นการลดโอกาสในการเป็นฟันผุ🦷จากการรับประทานน้ำตาลได้ด้วยค่ะ 


สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับน้ำตาลเทียม

น้ำตาลส่งผลต่อความอยากอาหาร

เนื่องจากน้ำตาลเทียมเป็นสารให้ความหวานที่ไม่มีแคลอรี บางคนจึงคิดว่าสามารถรับประทานน้ำตาลเทียม🧉ได้มากเท่าที่ต้องการโดยไม่ต้องกลัวอ้วน จึงทำให้รับประทานอาหารนั้นๆได้มากกว่าปกติเลยเป็นเชื่อว่าน้ำตาลเทียมเป็นการเพิ่มความอยากอาหารค่ะ

น้ำตาลส่งผลต่อน้ำหนัก

มีการวิจัยพบว่าการรับประทานสารทดแทนความหวานนั้นมีส่วนช่วยให้น้ำหนักตัว รอบเอวและมวลไขมันลดลง นอกจากนี้ยังทำให้คุมแคลอรีที่ควรจะรับประทานต่อวันได้ อย่างไรก็ตามการดื่มน้ำเปล่า🌊ก็จะเป็นประโยชน์มากกว่าการดื่มเครื่องดื่มที่ใช้สารให้ความหวานทดแทนนะคะ

น้ำตาลเทียมกับโรคเบาหวาน

สารให้ความหวานนั้นเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เป็นเบาหวาน เนื่องจากจะต้องรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งสารให้ความหวานนั้นก็มีรสหวานโดยที่ไม่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด🩸นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยที่พบว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลเทียม🧉 นั้นเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเบาหวานประเภทที่ 2 และกำลังมีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้น้ำตาลเทียมในผู้ที่เป็นเบาหวานเพิ่มเติม เพื่อดูผลของการใช้น้ำตาลเทียมในระยะยาวอีกด้วย


สรุปแล้วน้ำตาลเทียมปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์หรือไม่?

ปลอดภัยหรือไม่?...

ปัจจุบันสารให้ความหวานที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายนั้นได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา💊เป็นที่เรียบร้อยว่าปลอดภัยสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งเจ้าสารให้ความหวานที่ว่านั้นได้แก่ Stevia, Aspartame, Sucralose Saccharin และ Acesulfame-K เป็นต้น

ข้อถกเถียง

แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อถกเถียงว่าการใช้สารทดแทนความหวานนั้นจะทำให้คุณแม่ได้รับประโยชน์จากอาหารชนิดอื่นๆ🥗ที่มีคุณค่าทางโภชนาการน้อยลงนั่นเองค่ะ