อาการครรภ์เป็นพิษเป็นอย่างไร สาเหตุมาจากอะไร จะมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์อย่างไร และเมื่อไหร่ที่ควรจะไปพบแพทย์ วันนี้เราได้รวบรวมคำตอบมาให้กันแล้วค่ะ
สาเหตุของอาการเป็นพิษ
สาเหตุ
แม้ว่าปัจจุบันเราจะยังไม่ทราบสาเหตุของอาการครรภ์🤰เป็นพิษอย่างแน่ชัด แต่มีการสันนิษฐานว่าอาการครรภ์เป็นพิษนั้นเกิดจากรกที่สร้างโปรตีนชนิดหนึ่งที่เมื่อเข้าสู่กระแสเลือด🩸ของผู้ที่ตั้งครรภ์จะทำให้ความดันสูง จึงเกิดเป็นภาวะครรภ์เป็นพิษได้
ปัจจัยเสี่ยงครรภ์เป็นพิษ
✨ตั้งครรภ์ครั้งแรก
✨ตั้งครรภ์แฝด
✨มีน้ำหนักตัวเกิดมาตรฐาน
✨คุณแม่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี หรือมากกว่า 35 ปี
✨ครอบครัวหรือตนเองเคยมีประวัติครรภ์เป็นพิษ
✨มีโรคแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ หรือ โรคประจำตัว เช่น โรคไต ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคแพ้ภูมิตเอง (SLE) เป็นต้น
อาการของครรภ์เป็นพิษ
✨มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
✨มีอาการปวดหัวรุนแรง
✨ตาพร่ามัว👀 มองเห็นแสงวูบวาบหรือแสงเป็นจุดๆ
✨ปวดตรงใต้ลิ้นปี่
✨คลื่นไส้ อาเจียน
✨ปัสสาวะไม่ออกหรือปัสสาวะลดลง
✨มือ✋ เท้า ใบหน้าบวม
✨น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายในวันสองวัน
✨ความดันโลหิตสูงกว่า 130/80
✨มีอาการปวดศีรษะโดยเฉพาะบริเวณท้ายทอยและหน้าผาก
✨ในบางรายอาจมีอาการชัก หรือ หมดสติซึ่งอันตรายมาก
✨ในบางรายอาจมีเอนไซม์ตับขึ้นสูง ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ภาวะเม็ดเลือดแดงแตก
ผลกระทบต่อทารกในครรภ์ เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์?
ผลกระทบต่อทารกในครรภ์
ทารกในครรภ์👶อาจเติบโตช้า อาจทำให้ทารกเติบโตผิดปกติจากการมีน้ำคร่ำน้อย ทารกอาจคลอดก่อนกำหนด ทารกอาจเสียชีวิตในครรภ์ มีภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด เกิดน้ำในปอด ภาวะหัวใจล้มเหลว🫀 สูญเสียการมองเห็น มีเลือดออกจากตับ โรคลมชัก โรคหลอดเลือดสมอง
เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์?
หากพบว่าลูกดิ้นน้อยกว่าวันละ 10 ครั้ง มีอาการน้ำเดิน หรือมีน้ำไหลออกจากช่องคลอด มีอาการศีรษะรุนแรง จุกแน่นที่ลิ้นปี่ ตาพร่ามัว มีความดันโลหิตที่เท่ากับหรือสูงกว่า 160/110 ควรพบแพทย์👩⚕️โดยด่วนค่ะ