post-title

ทารกไวต่อการสัมผัส สังเกตได้อย่างไร?

หลายๆคนเมื่ออ่านหัวข้อแล้วก็คงจะเกิดความสงสัยว่าแล้วเราว่าทราบได้อย่างไรว่าลูกน้อยมีความไวต่อการสัมผัส? คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตได้ง่ายๆว่า ลูกน้อยของคุณพ่อคุณแม่ไม่ชอบที่จะสวมใส่เสื้อผ้าบางชนิดเพราะรู้สึกไม่สบายตัวหรือเปล่า อย่างเช่น เสื้อผ้าขนๆ อย่างผ้าขนสัตว์ โดยเจ้าตัวเล็กอาจมีท่าทางไม่ชอบใจทำหน้าบูดบึ้งนั่นเองค่ะ 


ทารกไวต่อการสัมผัสเป็นอย่างไร?

โดยปกติแล้ว...

ระบบการสัมผัส✋นั้นช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อกับผู้อื่นได้อย่างระดับลึก รวมไปถึงเป็นการเชื่อมความสัมพันของลูกน้อยและคุณพ่อคุณแม่ด้วย ซึ่งการสัมผัสนั้นจะช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการทางอารมณ์และสังคมอย่างสมวัย การสัมผัสและการรับรู้ความรู้สึกต่างๆ ยังเป็นตัวช่วยป้องกันเราจากอันตรายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บปวด ความร้อน

แต่ในทารกที่มีความไวต่อการสัมผัสนั้น

จะได้รับความรู้สึกต่างจากคนอื่นๆ โดยอาจรู้สึกเจ็บได้แม้ว่าจะเป็นการสัมผัสปกติ ซึ่งเราสามารถสังเกตได้ว่าหากเราสัมผัสลูกน้อยแล้ว เขาพยายามหนีออก หรือมีอาการร้องไห้งอแง😭 แม้ว่าการไวต่อการสัมผัสจะไม่ได้มีผลต่อการเรียนรู้ของเจ้าตัวเล็กโดยตรง แต่เขาอาจเสียสมาธิ ไม่มีความมั่นคงทางอารมณ์ และอาจจะป้องกันตัวเองมากกว่าเด็กคนอื่น


อาการที่บ่งบอกว่าทารกไวต่อการสัมผัส

อาการต่างๆ

✨สัมผัสตัวลูกน้อยแล้วมีอาการร้องไห้ ไม่สบายตัว

✨เมื่อใส่เสื้อผ้าให้จะแสดงอาการให้เห็นว่าไม่สบายผิว โดยเฉพาะป้ายในเสื้อ

✨มีการตอบสนองต่อความรู้สึกที่คนส่วนมากไม่รู้สึกหรือไม่สังเกต

✨ไม่ชอบเนื้อสัมผัสของอาหารบางชนิด จึงไม่ยอมทานอาหารชนิดนั้น

✨ไม่ชอบให้คุณพ่อคุณแม่ตัดเล็บ แปรงฟัน หวี หรือสระผม

อาจเกิดจากความผิดปกติทางการแพทย์อย่าง

✨ออทิสติก

✨ADHD

✨แอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม

✨ดาวน์ซินโดรม

✨ไบโพลาร์

✨พัฒนาการล่าช้า

✨ความบกพร่องทางการเรียนรู้


รับมืออย่างไรเมื่อพบว่าลูกไวต่อการสัมผัส

คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษา

กุมารแพทย์เรื่องความไวต่อการสัมผัสของลูกน้อย เพื่อส่งต่อให้นักบำบัดวินิจฉัยและรักษาต่อไป ซึ่งนักบำบัด👨‍⚕️จะทำการวางแผนเพื่อรักษาเจ้าตัวเล็ก และจะแนะนำถึงวิธีการต่างๆที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปทำที่บ้านได้เพื่อให้การช่วยเหลืออีกทาง

ความไวต่อการสัมผัสในเด็ก

อาจเกิดมาจากความผิดปกติอื่นๆ ในด้านของพันธุกรรม🧬หรือพัฒนาการ ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่สงสัยว่าลูกน้อยอาจเป็นหนึ่งในเด็กที่มีความไวต่อการสัมผัสก็ควรจะเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์และนักบำบัดผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุดค่ะ