วิตามินอี เป็นอีกหนึ่งวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา ซึ่งช่วยในการบำรุง ป้องกันส่วนต่างๆของร่างกายเป็นอย่างดี แต่สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้นควรจะรับประทานวิตามินอีเสริมหรือไม่? ส่งผลเสียอะไรต่อลูกน้อยในครรภ์หรือเปล่า เราไปดูกันค่ะ
ทำความรู้จักวิตามินอี
วิตามินอี คือ
วิตามินอี (Vitamin E) 💊 เป็นวิตามินที่สามารถละลายได้ในไขมันได้ดี โดยร่างกายจำเป็นต้องใช้วิตามินอีเป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ ป้องกันการอุดตันของเม็ดเลือดและการแตกของเม็ดเลือด ป้องกันการอักเสบ และมีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ
อาหารใดบ้างที่สามารถพบวิตามินอี ?
คุณแม่สามารถพบวิตามินอีได้ในน้ำดอกเมล็ดทานตะวัน🌻 เมล็ดทานตะวัน อัลมอนด์ เฮเซลนัต ไข่ มะเขือเทศเชอรร์รี พิสตาชิโอ บรอกโคลี เป็นต้น
ประโยชน์ของวิตามินอีต่อคุณแม่ตั้งครรภ์
วิตามินอีนั้นมีส่วนช่วย
ให้ร่างกายของคุณแม่เสริมสร้างความแข็งแรงและรักษาเซลล์เม็ดเลือดแดงบริเวณดวงตา👀และผิวหนัง รวมถึงยังช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้นด้วย
นอกจากนั้นยัง
ช่วยปกป้องร่างกายจากสารอนุมูลอิสระ หรือ Reactive oxygen species (ROS) และยังช่วยสังเคราะห์ คอลลาเจนและเมแทบอลิซึมของโฟเลตและธาตุเหล็กอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นวิตามินอี
ยังช่วยลดความเสี่ยงของ ภาวะน้ำเดิน หรือ การคลอดก่อนกำหนด การจำกัดการเจริญเติบโตของมดลูก ช่วยลดโอกาสที่ทารกมีจะมีปัญหาทางระบบทางเดินหายใจ และ โรคหอบหืดหลังคลอดได้🤰
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรทานวิตามินอีเท่าไหร่ ยังไง?
วิตามินอีเท่าไหร่จึงจะพอดี?
ปริมาณที่แพทย์แนะนำให้กับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์คือ 3 มิลลิกรัม/วันค่ะ
อาหารเสริมวิตามินอี ปลอดภัยกับคุณแม่ตั้งครรภ์ไหม?
วิตามินอีนั้น💊 ถือว่ามีความปลอดภัยสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ และช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับคุณแม่และเสริมสร้างพัฒนาการให้ทารกในครรภ์ อย่างไรก็ตามการทานวิตามินอีในช่วงระยะแรก หรือ ช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์นั้นอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ ดังนั้น ในช่วง 8 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ คุณแม่ไม่ควรทานอาหารเสริมวิตามินอีค่ะ รวมถึงก่อนรับประทานก็ควรจะปรึกษาคุณหมอที่ฝากครรภ์ก่อนเพื่อความปลอดภัยนะคะ👩⚕️