post-title

สัญญาณเหล่านี้บ่งบอกเพศลูกในครรภ์ได้จริงหรอ?

ทราบหรือไม่คะว่าหากสังเกตการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของคุณแม่ เราจะสามารถคาดเดาเพศของลูกในครรภ์ได้ด้วย? แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการคาดเดา และอาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่แน่นอนเท่ากับการตรวจอัลตร้าซาวนด์ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถสังเกตสัญญาณเหล่านี้เพื่อทายเพศลูกเล่นๆก่อนที่จะรู้ผลจริงได้นะคะ พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยค่ะ 


สังเกตสัญญาณเหล่านี้

ผมและเล็บยาวไว

โบราณเชื่อว่าคุณแม่ที่มีผมและเล็บยาวไว💅ในขณะตั้งครรภ์เชื่อว่าจะได้ลูกชาย และแต่หากไม่ใช่ก็เชื่อว่าจะได้ลูกสาว

ขนาดหน้าอก 

ว่ากันว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ขนาดหน้าอกไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักอาจได้ลูกผู้ชาย และ คุณแม่ที่หน้าอกใหญ่ เต่งตึงขึ้นกว่าเดิมมากจะได้ลูกสาว👧

อัตราการเต้นของหัวใจของทารก

หากอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ต่ำกว่า 140ครั้ง/นาที แปลว่าอาจจะเป็นเพศชาย และหากเต้นเร็วกว่า 140ครั้ง/นาที ก็อาจจะได้เพศหญิง

ลักษณะท้อง

หากท้องกลม ป้าน🤰 แปลว่าลูกอาจจะเป็นเพศหญิง แต่หากลักษณะท้องมีการยื่นแหลม ห้อยลงมา ก็เชื่อว่าจะได้ลูกชาย


สังเกตสัญญาณเหล่านี้

ลักษณะการกิน

ผลศึกษาของศาสตราจารย์ Dimitrios Trichopoulous ได้พบว่าคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ลูกชายจะต้องการพลังงานสูงกว่าลูกสาวดังนั้นจึงมักจะหิวบ่อยกว่าและทานอาหารมากกว่านั่นเองค่ะ🍲

ความเครียดและอารมณ์

หากคุณแม่เครียดมากหรือมีระดับคอร์ติซอลสูงตอนตั้งครรภ์มีเกณฑ์จะได้ลูกสาวมากกว่าลูกชาย รวมถึงคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ลูกสาวจะมีอารมณ์โมโห หงุดหงิดง่ายกว่าเนื่องจากมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูงกว่า📈

อาการแพ้ท้อง

คุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้องรุนแรงมากกว่ามักจะกำลังตั้งครรภ์ลูกสาว โดยหากแพ้ท้องเบาหรือไม่แพ้ท้อง ก็มีโอกาสที่ลูกจะเป็นเพศชาย เรื่องนี้ค่อนข้างน่าเชื่อถือ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความนี้ได้เลยค่ะ

การดิ้นของทารก

โดยทั่วไปแล้วคุณแม่จะสามารถรู้สึกถึงการดิ้นของลูกในช่วงสัปดาห์ที่ 20 ของการตั้งครรภ์แต่คุณแม่คนไหนรู้สึกไวกว่านั้น แปลว่าอาจจะเป็นลูกชายค่ะ🤰

อุณหภูมิเท้า

คุณแม่ที่มีอุณหภูมิเท้า🦶เย็นมักจะตั้งครรภ์ลูกชาย เรื่องนี้มีผู้เชี่ยวชาญจากประเทศเยอรมนีอธิบายว่า คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ลูกชาย มักจะมีระบบไหลเวียนของเลือดที่ไม่ดีเท่าคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ลูกสาวนั่นเองค่ะ


คุณพ่อคุณแม่จะสามารถทราบเพศของลูกได้ตอนกี่เดือน?

นอกจากการทำนายเพศจากการสังเกตความเปลี่ยนแปลงต่างๆของร่างกายคุณแม่แล้ว คุณแม่สามารถเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาล🏥เพื่อทราบผลที่แน่ชัด ซึ่งมีวิธีการตรวจหลากหลายวิธีดังนี้ 

อัลตราซาวนด์

วิธีนี้มีความแม่นยำสูงถึง 80-90% เลยทีเดียวค่ะ โดยคุณแม่สามารถเข้ารับการตรวจได้ตั้งแต่ 18 สัปดาห์เป็นต้นไป

ตรวจโครโมโซม🧬

คุณแม่สามารถใช้วิธีนี้ได้เมื่อมีอายุครั้ง 9 สัปดาห์โดยมีความแม่นยำในการดูเพศของทารกถึง 99% รวมถึงยังสามารถหาความผิดปกติในโครโมโซมได้อีกด้วยค่ะ

เจาะน้ำคร่ำ

การเจาะน้ำคร่ำจะสามารถทำให้เราทราบเพศของลูกได้ ซึ่งมีความแม่นยำสูงถึง 99.4% แต่ก็เป็นวิธีที่ทำให้คุณแม่เสี่ยงติดเชื้อ หรือคลอดก่อนกำหนดได้

ตรวจเลือด🩸

วิธีนี้สามารถช่วยให้เราทราบว่าลูกมีเพศอะไร โดยจะต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจ วิธีนี้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเป็นวิธีที่ตรวจเมื่อมีความเสี่ยงต่างๆเท่านั้น จึงไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่ค่ะ

ทั้งนี้ทั้งนั้นวิธีการเดาเพศของทารกจากการสังเกตการเปลี่ยนแปลงต่างๆข้างต้นนั้นก็เป็นเพียงความเชื่อโบราณและสามารถนำไปทายกันสนุกๆได้ โดยหากจะอยากคอมเฟิร์มแบบชัวร์ๆ ก็แนะนำให้ไปตรวจที่โรงพยาบาล🏥กันนะคะ