เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์หลายๆท่านจะรู้สึกว่าตนเองอ่อนเพลียและเหนื่อยง่ายกว่าปกติ ซึ่งเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยและเป็นเรื่องปกติ ซึ่งในวันนี้เราได้รวบรวมวิธีการรับมือกับความอ่อนเพลียเหล่านี้มาให้คุณแม่แล้วค่ะ
สาเหตุที่ทำให้คุณแม่รู้สึกเหนื่อยมากขึ้นเมื่อตั้งครรภ์
ร่างกายทำงานหนักมากขึ้น
เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์แล้วร่างกายของคุณแม่ก็จะทำงานหนักมากขึ้น โดยเม็ดเลือดแดงจะต้องนำออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกายเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้หัวใจ🫀ของคุณแม่ทำงานหนักมากขึ้นถึง 50%
การเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำในร่างกาย
เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ ปริมาณน้ำ🌊ในร่างกายของคุณแม่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เม็ดเลือดแดงจางลง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณแม่รู้สึกเหนื่อยและเพลียมากขึ้น
วิธีช่วยฟื้นฟูให้คุณแม่รู้สึกสดชื่นมากขึ้น
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ💤
การนอนหลับตั้งแต่หัวค่ำจะช่วยให้คุณแม่เพลียน้อยลงได้ โดยหากคุณแม่ไม่สามารถนอนหลับยาวๆ ในตอนกลางคืนได้ อาจหาเวลาว่างและนอนงีบในตอนกลางวันสัก 30 นาที ถึง 2 ชั่วโมง
ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
รวมถึงพยายามเน้นธาตุเหล็กอย่าง หมู🐖 ตับหมู ไก่ มะเขือเทศ ผักกาดหอม เมล็ดฟักทอง เป็นต้น
หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหนื่อยง่าย
หลีกเลี่ยงการช็อปปิ้ง🛒เป็นเวลานาน หรือ การเดินติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป
ออกกำลังกายเบาๆ
การยืดเส้นยืดสายบ่อยๆ หรือการออกกำลังกายเบาๆ🏃♀️จะช่วยให้คุณแม่หลั่งสารเอ็นดอร์ฟินซึ่งจะช่วยให้คุณแม่กระปี้กระเปร่าและรู้สึกดีขึ้นได้ค่ะ
หาวันว่างนัดเจอเพื่อน
คุณแม่สามารถหาเวลาว่างให้กับตนเอง ชวนเพื่อนๆ👯♀️ออกมาพบที่ร้านอาหารหรือคาเฟ่ใกล้บ้าน นี่เป็นอีกหนึ่งวิธีในการฟื้นฟูและผ่อนคลายจิตใจ คุณแม่จะได้อัพเดทและแลกเปลี่ยนเรื่องราวใหม่ๆ คลายเครียดและคลายเหงาไปในตัวค่ะ
ฝากคุณพ่อหรือคนที่บ้านช่วยบ้าง
บางครั้งหากมีคนมาช่วยคุณแม่ทำงานบ้านหรือดูแลลูกน้อยที่บ้านได้ก็จะทำให้คุณแม่ได้พักผ่อนบ้างและไม่เหนื่อยมากจนเกินไป ลองคุยกับคุณพ่อ👨หรือคนที่บ้านดูนะคะ👵👴
หากมีอาการเหล่านี้ ไม่ควรมองข้าม
หากพบอาการเหล่านี้อาจเป็นไทรอยด์เป็นพิษ
หากคุณแม่พบว่าตนเองมีอาการมือสั่น✋ และมีชีพรเต้นเกิน 100 ครั้งต่อนาที🫀 แม้ในขณะที่นอนพักแปลว่าคุณแม่อาจเป็นไทรอยด์เป็นพิษ โดยหากมีไข้ร่วมด้วยอาจแปลว่าคุณแม่ติดเชื้อที่ใดที่หนึ่งในร่างกาย
หากพบอาการเหล่านี้อาจเป็นโลหิตจาง
แม้ว่าอาการเพลียและเหนื่อยง่ายของคุณแม่ที่กำลังจะเป็นเรื่องที่พบเจอได้บ่อยๆ แต่หากคุณแม่มีอาการเหล่านี้ร่วมด้วยก็ไม่ควรมองข้ามนะคะ เช่น หากมีอาการเวียนศีรษะหายใจไม่ทัน อาจเป็นอาการของโรคโลหิตจาง🩸ได้ ซึ่งคุณแม่จะต้องพบคุณหมอเพื่อตรวจว่าวินิจฉัยว่าใช่อาการของโรคโลหิตจางหรือไม่
และหากใช่คุณแม่ก็จะต้องเริ่มดูแลตนเองด้วยการทานอาหารที่มีธาตุเหล็กเพิ่ม อย่าง ตับ ข้าวกล้อง🌾 ผักใบเขียว เนื้อไม่มีมัน ถั่วต่างๆ เป็นต้น
ทราบอย่างนี้แล้วก็อย่าลืมดูแลตนเองพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังที่เหมาะสมแก่ร่างกายของคุณแม่นะคะ โดยหากพบอาการข้างต้นก็ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อยืนยัน