ดวงตา เป็นอวัยวะที่สำคัญและบอบบางมาก ซึ่งเป็นบริเวณที่จะต้องได้รับการระมัดระวังและรักษาทันทีเมื่อมีความผิดปกติ ปัญหาสายตาในเด็กก็ควรได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างยิ่ง เพราะมีปัจจัยหลายๆอย่างที่อาจทำให้เกิดความผิดปกติได้ จึงควรพาลูกน้อยไปประเมินและวินิจฉัยกับจักษุแพทย์อย่างเหมาะสมนั่นเองค่ะ
วิธีป้องกันปัญหาสายตาในเด็ก
คุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันปัญหาสายตาให้ลูกได้ดังนี้
✨คอยบอกให้ลูกรักษาระยะห่างหน้าจอทีวี คอมพิวเตอร์🖥️ หรือ กระดานเรียนให้เหมาะสม
✨อย่าให้อยู่หน้าจอนานจนเกินไป ส่งเสริมให้ลูกเล่นกลางแจ้ง เพราะการได้ออกไปนอกบ้านจะทำให้ตา👀เคลื่อนไหวตลอดเวลา และการสัมผัสกับแสงแดดก็ช่วยป้องกันสายตาสั้นได้บางกรณีอีกด้วย
✨ให้ทานผักใบเขียว และ อาหารที่มีกรดอะมิโน และโปรตีน
✨ตรวจตาเป็นประจำ
✨ทานอาหารเพื่อสุขภาพ🥗
✨หากสงสัยว่าลูกมีปัญหาทางสายตาให้พาไปตรวจทันที
✨ไม่ให้ลูกสัมผัสดวงหน้าด้วยมือที่สกปรกและให้ลูกล้างมือทุกครั้งที่กลับจากข้างนอก✋
✨หากตามีการติดเชื้อ เช่น ตาแดง ควรให้หยุดเรียนเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
✨หากลูกมีอาการ ปวดหัว กะพริบตาถี่ๆ หรือ ตาเหล่ควรพาไปตรวจสายตาโดยเร็วที่สุด
การตรวจสายตาตามวัย
แรกเกิด
ในทารกแรกเกิด👶 แพทย์จะทำการทดสอบการสะท้อนสีแดงจากจอประสาทตาของทารกเพื่อประเมินการมองเห็น และดูว่ามีความผิดปกติหรือไม่ รวมถึงตรวจความผิดปกติของดวงตาและเปลือกตาภายนอก ประเมินลักษณะของรูม่านตา
6 เดือน – 1 ปี
ประเมินโดยการทดสอบการมองเห็น👀 ลักษณะของรูม่านตา ตรวจสุขภาพตาและตรวจหาโรคตาที่พบบ่อยในเด็กเป็นต้น
3 ปี – 3 ปี ครึ่ง
ในช่วงวัยนี้เด็กจะโตพอที่จะให้ความร่วมมือในการตรวจวัดสายตา👓ได้ ดังนั้นควรพาลูกไปตรวจวัดเพื่อดูว่ามีสายตาสั้น ยาว เอียงหรือไม่ และควรตรวจภาวะตาสองข้างไม่มองในทิศทางเดียวกัน เช่น ตาเหล่ ตาเข ตาขี้เกียจ เป็นต้น
เด็กวัยเรียน
เมื่อเข้าสู่วัยเรียน และหากสงสัยว่าลูกมีปัญหาทางสายตา ผู้ปกครองก็ควรพาน้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจวัดสายตา โดยปัญหาทางสายตาที่พบได้บ่อยๆในวัยนี้คือสายตาสั้นนั่นเอง ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการตัดแว่นใส่ ซึ่งหากสงสัยว่ามีปัญหาทางสายตาอื่นๆ ก็ควรให้จักษุแพทย์👨⚕️ตรวจดวงตาอย่างละเอียด
ซึ่งหากผู้ปกครองสังเกตเห็นอาการผิดปกติแล้ว ก็ควรให้ลูกได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ทั้งนั้นโรคเกี่ยวกับตาบางอย่างก็จะต้องอาศัยการปลูกฝังพฤติกรรมที่ดีให้ลูกน้อยเพื่อป้องกันโรคตาต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้นั่นเองค่ะ