คุณผู้อ่านหลายๆท่านที่เป็นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือมีคนรอบตัวที่กำลังตั้งครรภ์ จะสังเกตว่าช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่จะมีอาหารเหนื่อยล้าค่อนข้างง่าย และอ่อนเพลียง่ายกว่าปกติเมื่อเทียบกับช่วงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ใช่ไหมคะ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจก่อให้เกิดความกังวลว่า มันเป็นสัญญาณหนึ่งของความผิดปกติระหว่างการตั้งครรภ์หรือไม่ หากมีอาการเหล่านี้ต้องไปพบแพทย์หรือเปล่า บทความนี้มีคำตอบให้คุณผู้อ่านค่ะ
ทำไมคุณแม่จึงมีอาการอ่อนเพลียระหว่างการตั้งครรภ์
อันที่จริงแล้ว ระหว่างที่คุณแม่ตั้งครรภ์ นอกจากลักษณะภายนอกที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด นั่นก็คือมีท้องที่โตขึ้น และคุณแม่บางท่านอาจมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น สิ่งต่างๆข้างในร่างกายของคุณแม่ก็กำลังปลี่ยนแปลงไปเช่นเดียวกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสมดุลฮอร์โมน ความดันเลือดและการไหลเวียนของเลือด🩸 รวมไปถึงระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งอาการเหล่านี้มักเกิดในช่วง 3-4 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ และคุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้องจะทำให้มีอาการอ่อนเพลียเพิ่มขึ้นไปอีกซึ่งเป็นเรื่องปกติค่ะ ในช่วง 3 เดือนต่อมาอาการเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้น แต่ก็มีโอกาสจะกลับมาอีกครั้งในช่วง 3 เดือนสุดท้าย ซึ่งมาจากเหตุผลเดียวกันในช่วง 3 เดือนแรก รวมไปถึงการไม่สบายตัวเนื่องจากมีขนาดของท้องที่ใหญ่ขึ้น🤰 และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของคุณแม่ด้วยค่ะ
อาการอ่อนเพลียเป็นอันตรายต่อร่างกายของคุณแม่หรือไม่
อย่างที่กล่าวไป อาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติในช่วงเวลาดังกล่าวค่ะ แต่ก็มีระดับที่ควรไปพบแพทย์เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น คุณแม่อาจเกิดอาการอ่อนเพลีย😪ขึ้นมาอย่างฉับพลัน แม้จะนอนหลับพักผ่อนอย่างเหมาะสมแล้ว แต่ตื่นมาก็ยังอ่อนเพลียอยู่ หรือการที่อาการอ่อนเพลียเหล่านี้ไม่หายไปสักทีแม้จะพ้นจากระยะ 3 เดือนแรกแล้ว ในกลุ่มที่รุนแรงขึ้นมาอีกก็จะเป็นคุณแม่ที่อ่อนเพลียจนมีภาวะหยุดหายในขณะนอนหลับ วิงเวียนหรือปวดศีรษะอย่างรุนแรง มีอาการหายใจลำบาก รู้สึกใจสั่น ปัสสาวะน้อยผิดปกติ คุณแม่ที่มีอาการเหล่านี้ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพกับแพทย์👩⚕️โดยด่วนค่ะ
วิธีลดอาการอ่อนเพลียที่เกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์ของคุณแม่
พยายามอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เย็น
หากหลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากประเทศของเราเป็นเมืองร้อน🌞 ให้พยายามอยู่ในสถานที่ที่ถึงแม้จะร้อน แต่ก็ยังมีอากาศถ่ายเท หรืออาจปรับตัวด้วยการสวมเสื้อผ้าที่หลวม เนื้อผ้าสบายตัวไม่ระคายผิว ระบายความร้อนได้ดี แน่นอนว่าการดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมและดื่มบ่อยๆก็ช่วยได้ การอาบน้ำบ่อยๆก็ช่วยได้เช่นเดียวกันค่ะ
พักผ่อนให้มากขึ้น
คุณแม่ควรทำความเข้าใจว่า แม้ก่อนตั้งครรภ์ตนเองจะร่างกายแข็งแรงเพียงใด แต่ช่วงตั้งครรภ์นั้น กำลังมีเด็กอีกคนที่มายืมใช้ร่างกายของเราในการมีชีวิตอยู่ ดังนั้น หากคุณแม่จะต้องการอาหารที่มากขึ้น หรือการพักผ่อนที่มากขึ้นนั้นก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจหรือควรฝืนค่ะ ดังนั้นควรหาเวลาพักผ่อน💤ให้มากขึ้น ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจค่ะ
ควบคุมน้ำหนักและดูแลเรื่องอาหารการกิน
การที่คุณแม่รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ🥗 มีสารอาหารเพียงพอ ในปริมาณที่เหมาะสม และมีการควบคุมน้ำหนักโดยการออกกำลังกายในระดับความเข้มข้นและความถี่ที่เหมาะสมควบคู่ไปด้วยกัน จะช่วยลดอาการอ่อนเพลียระหว่างคั้งครรภ์ของคุณแม่อย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ
จะเห็นได้แล้วนะคะว่า คุณแม่ทุกคนสามารถเกิดอาการเหล่านี้ได้ และเป็นอาการที่ไม่ได้น่ากลัวอะไรหากได้รับการรับมือและจัดการอย่างเหมาะสมค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม หากมีอาการอ่อนเพลียมากกว่าปกติอย่างชัดเจน หรือมีอาการเสี่ยงตามที่กล่าวไป แนะนำให้คุณแม่รีบพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันทีค่ะ เพราะบางทีการที่อาการเหล่านี้ไม่ดีขึ้นเสียที อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงโรคหรือภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ที่จะตามมาในภายหลังได้ค่ะ