post-title

เก็บสายสะดือ สเต็มเซลล์ดีไหม?

       ในปัจจุบัน วิทยาศาสตร์และวิทยาการทางการแพทย์มีความก้าวหน้าควบคู่ไปด้วยกันอย่างก้าวกระโดด เราจึงเห็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ รวมไปถึงการรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีใหม่ๆเพิ่มขึ้นมา หนึ่งในนั้นคือเรื่องเกี่ยวกับการรักษาด้วย “สเต็มเซลล์” ที่ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เชื่อว่า คุณผู้อ่านหลายๆท่านอาจยังไม่คุ้นเคยกับมันมากนัก บทความนี้จะพาคุณผู้อ่านไปทำความรู้จักกับสเต็มเซลล์มากขึ้น ว่ามันเกี่ยวข้องกับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ในแง่ไหนบ้าง เราไปเริ่มกันที่ความหมายของมันกันเลยค่ะ


สเต็มเซลล์คืออะไร

ก่อนจะรู้จักกับคำว่าสเต็มเซลล์ เราต้องรู้จักกับคำว่าเซลล์ก่อน สิ่งมีชีวิตทุกชนิดรวมถึงเราทุกคนล้วนมีหน่วยย่อยๆของร่างกาย ที่เปรียบเสมือนฟันเฟืองที่ช่วยขับเคลื่อนให้เรามีชีวิตได้ เซลล์ก็คือหน่วยย่อยๆเหล่านั้นนั่นเองค่ะ แต่เนื่องจากในร่างกายของเราก็ประกอบไปด้วยหลายอวัยวะใช่ไหมคะ ดังนั้นเซลล์ที่อวัยวะต่างๆก็จะมีความแตกต่างกัน แต่เซลล์เหล่านี้ล้วนมาจากจุดกำเนิดเดียวกัน นั่นก็คือ “สเต็มเซลล์” นั่นเองค่ะ สเต็มเซลล์เป็นเซลล์ในระยะแรกเริ่มที่ยังไม่ได้แปรสภาพไปเป็นเซลล์ของอวัยวะไหนเป็นพิเศษ ยังไม่มีหน้าที่เฉพาะ ในเชิงอุดมคติมันจึงสามารถเติบโตไปเป็นเซลล์อะไรในร่างกายเราก็ได้นั่นเองค่ะ🧍‍♀️🧍‍♂️


สายสะดือเกี่ยวอะไรกับสเต็มเซลล์

อันที่จริงแล้ว สเต็มเซลล์มีอยู่ในหลายบริเวณของร่างกาย

สายสะดือเป็นเพียงอวัยวะหนึ่งที่มีสเต็มเซลล์ค่ะ ซึ่งก็นับเป็นส่วนที่สามารถเก็บสเต็มเซลล์ได้ค่อนข้างง่าย เพราะหลังคลอดบุตร สายสะดือจะถูกตัดทิ้งอยู่แล้ว ไม่ได้ไปเก็บตั้งแต่อยู่ในร่างกายของคุณแม่👩 จึงเป็นส่วนที่เก็บแล้วจะไม่ทำให้คุณแม่เจ็บตัวเพิ่มค่ะ

ทำไมจึงควรเก็บสเต็มเซลล์

หลังจากเราทำความเข้าในความหมายของสเต็มเซลล์ไปแล้ว คุณผู้อ่านก็คงจะเดาได้ไม่ยากใช่ไหมคะว่ามันมีประโยชน์อะไร เนื่องจากมันคือเซลล์ต้นกำเนิดของทุกเซลล์ในร่างกายเรา ในเชิงอุดมคติ หากเรามีสเต็มเซลล์สต็อคไว้ที่ไหนสักแห่ง ในเวลาที่เราเจ็บป่วย🤒 เซลล์ในร่างกายของเราส่วนใดส่วนหนึ่งเกิดความเสียหาย เราก็จะสามารถดึงสเต็มเซลล์ที่เราเคยเก็บไว้มาทดแทนส่วนที่เสียหายได้ค่ะ


ข้อจำกัดของการรักษาด้วยสเต็มเซลล์

✨ในปัจจุบัน การเก็บสเต็มเซลล์เพื่อรอนำไปใช้รักษาโรค สามารถใช้ได้ผลและมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้กับโรคบางกลุ่มเท่านั้น เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือด🩸

✨ในการนำไปใช้รักษาโรค ต้องคำนึงถึงความเข้ากันได้ระหว่างสเต็มเซลล์ของผู้บริจาคและร่างกายของผู้รับบริจาคด้วย ต้องบอกว่ามีโอกาสน้อยมากที่เซลล์ของเราจะเข้ากับเซลล์ของคนนอกสายเลือดของตนเองได้ ดังนั้น การเก็บสเต็มเซลล์จากสายสะดือหลังจากที่คุณแม่คลอด🤰จะช่วยเพิ่มโอกาสในเรื่องของความเข้ากันได้เมื่อนำมาใช้รักษากับคนในครอบครัวของเรา แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันว่าจะเข้ากันได้ 100% อยู่ดีค่ะ

✨ในความเป็นจริง สเต็มเซลล์ไม่ได้สามารถเจริญเติบโตไปเป็นเซลล์ได้ทุกประเภทในร่างกาย อ่านมาถึงตรงนี้คุณผู้อ่านอาจจะงงใช่ไหมคะ เพราะมันค่อนข้างขัดกับความหมายของคำว่าเซลล์ต้นกำเนิดที่พูดถึงไปก่อนหน้า ต้องอธิบายเพิ่มเติมแบบนี้ค่ะ ถึงแม้จะเป็นเสต็มเซลล์ที่เป็นเซลล์ต้นกำเนิด แต่สเต็มเซลล์ก็มีระยะของมัน สเต็มเซลล์ในกลุ่มที่แก่หน่อย ไม่สดใหม่ จะเติบโตไปเป็นเซลล์อื่นได้แค่บางชนิดเท่านั้น และสูญเสียความสามารถของสเต็มเซลล์บางอย่างไปค่ะ🫢

     ถึงแม้การใช้สเต็มเซลล์ในการรักษาจะยังมีข้อจำกัดในหลายประเด็น แต่ยังไงถ้ามีโอกาสได้เก็บ หรือมีค่าใช้จ่ายเพียงพอในการเก็บ ไม่เดือดร้อนมากนัก การเก็บสเต็มเซลล์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ เพราะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษา หากในอนาคต เจ้าตัวน้อยของเรา คนในครอบครัวของเรา รวมไปถึงตัวเราเองเป็นโรคขึ้นมาจริงๆ จะได้มีทางเลือกในการรักษาที่หลากหลายมากขึ้นค่ะ