post-title

ภัยของฝุ่น PM 2.5 ต่อทารกในครรภ์

     มลพิษ PM 2.5 นั้นสามารถส่งผลโดยตรงต่อลักษณะทางกายภาพและพัฒนาการของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ หากทารกได้รับมลพิษในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่ออวัยวะที่สำคัญในร่างกาย เช่น ปอด🫁 รวมถึงยังไปทำลายภูมิคุ้มกันที่เยื่อบุทางเดินหายใจ วันนี้ทางเราได้รวบรวมเกล็ดความรู้ที่คุณแม่ควรศึกษาการดูแลสุขภาพและผลกระทบจากการรับฝุ่นที่อาจเป็นภัยต่อทารกในครรภ์


ผลกระทบจากการรับฝุ่น PM 2.5 ต่อทารก

เพิ่มความเสี่ยงทารกน้ำหนักตัวน้อย (Low Birth Weight Infant)

เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของทารกนั้นยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ หากทารกได้รับมลพิษไปในปริมาณมากนั้น อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในปอดได้ และยังเสี่ยงทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว🫀ในที่สุด

ทารกเสี่ยงเป็นออทิสติก (Autistic Disorder)

คุณแม่ควรดูแลรักษาตัวเป็นพิเศษในช่วงตั้งครรภ์🤰หลีกเลี่ยงการสูดดมมลพิษให้ได้มากที่สุด เพราะในมลพิษนั้นประกอบด้วยสารพวก ตะกั่ว แมงกานีส และโลหะ ซึ่งสารที่กล่าวมานั้นอาจจะส่งผลให้ลูกเป็นออทิสติกได้ถึง 50%


วิธีป้องกันภัยจากฝุ่น PM 2.5 ต่อครรภ์คุณแม่

สวมใส่หน้ากากอนามัย

คุณแม่ควรสวมใส่หน้ากากนามัย😷 ทุกครั้งเมื่อต้องออกไปนอกบ้าน และควรเลือกใช้หน้ากากอนามัยที่ผ่านการรับรองว่าป้องกัน PM 2.5 ได้จริง เพราะจะสามารถกรองฝุ่นละอองเล็กมากๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ

เครื่องฟอกอากาศถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่คุณแม่ควรซื้อติดบ้านไว้ เพราะสามารถกรองอากาศให้บริสุทธิ์ ลดปัญหามลพิษจากภายนอก ทำให้คุณแม่มั่นใจได้ว่าลูกและครอบครัว👨‍👩‍👧‍👦 นั้นปลอดภัยจากละอองฝุ่นที่มองไม่เห็น


วิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศเพื่อกรองฝุ่น PM 2.5

เลือกฟังก์ชันที่แมทช์ต่อไลฟ์สไตล์

คุณแม่ควรเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่มีฟีเจอร์ตอบโจทย์ต่อการใช้งานจริง โดยเฉพาะฟีเจอร์ในการกำจัดฝุ่นละอองได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบการทำงานที่เงียบ ไม่ส่งเสียงรบกวนขณะลูกนอนหลับ😴

มิกซ์ แอนด์ แมทช์ ให้เข้ากับสไตล์ของบ้าน

คุณแม่สามารถเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีดีไซน์สวยและแมทช์กับอินทีเรียร์ของบ้าน เพราะเครื่องฟอกอากาศก็เปรียบเสมือนเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านได้ ช่วยเพิ่มความสวยงามและทำให้บ้าน🏡 น่าอยู่มากขึ้น

เลือกซื้อขนาดที่เหมาะสม

ขนาดของเครื่องฟอกอากาศนั้นนับเป็นสิ่งแรกที่คุณแม่ควรให้ความสำคัญ คุณแม่ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดกระทัดรัดเหมาะสมกับขนาดของห้อง เพราะจะสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย หากในอนาคตมีของใช้ของลูกมาเพิ่มเติม

     ในปัจจุบันนั้นมีมลพิษล่องลอยอยู่ในอากาศและยากที่จะเลี่ยงต่อการใช้ชีวิตประจำวัน คุณแม่โดยส่วนมากมักให้ความสำคัญกับฝุ่นภายนอกจนลืมไปว่าฝุ่นภายในบ้านนั้นก็เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของแม่และทารก เพื่อเป็นการป้องกันมลพิษที่อาจส่งผลต่อทารกในครรภ์ ทางเราแนะนำว่าคุณแม่ควรใส่ใจและประยุกต์ใช้วิธีป้องกันฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ทุกชนิดหลายๆวิธี เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสมาชิกในครอบครัว👨‍👩‍👧‍👦ทุกคนจะได้รับผลกระทบจากมลพิษน้อยที่สุดค่ะ