post-title

เทคนิคการเลือกน้ำยาล้างขวดนมลูก

     ขวดนมนับเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของทารกแรกเกิด👶 คุณแม่ควรให้ความสำคัญในการดูแลรักษาความสะอาดของขวดนม เพราะเชื้อโรคและแบคทีเรีย🦠ต่างๆที่สะสมในขวดนมอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของลูกน้อยคุณแม่เป็นอย่างมาก วันนี้ทางเราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อน้ำยาล้างขวดนมและขั้นตอนในการทำความสะอาดขวดนมอย่างถูกต้องมาให้คุณแม่ทราบค่ะ


ข้อควรพิจารณาในการเลือกซื้อน้ำยาล้างขวดนม

ส่วนผสมของน้ำยาล้างขวดนม

คุณแม่ควรเลือกซื้อน้ำยาล้างขวดนมที่เป็นสูตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายของทารก เน้นผลิตภัณฑ์ที่เป็นออร์แกนิค🌱 มากกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากสารเคมี🧪 เพราะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมมาจากสารเคมีมีแนวโน้มที่จะทิ้งสารตกค้างไว้ในขวดนมพลาสติกได้ควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ มี keyword ว่า Hypoallergenic และ Sensitive skin

ขนาดของน้ำยาล้างขวดนม

คุณแม่ควรเลือกน้ำยาล้างขวดนม🧴ขนาดที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ควรเลือกซื้อในปริมาณที่พอดี คำนึงถึงการใช้งานตามความเป็นจริง และพื้นที่ในการเก็บรักษา หากซื้อน้ำยาล้างขวดนมขนาดใหญ่เกินไปอาจถือเป็นการสิ้นเปลืองมากกว่าความคุ้มค่า และอาจจะใช้ไม่สินค้าไม่ทันก่อนสินค้าหมดอายุ 


3 ขั้นตอนในการทำความสะอาดขวดนม

ขั้นตอนที่ 1 แยกชิ้นส่วนของขวดนม

แยกชิ้นส่วนของขวดนมออกเป็นชิ้นๆ จะประกอบไปด้วยจุกนม ฝาและขวดนมตามลำดับ คุณแม่ควรสังเกตคราบนมที่แห้งติดอยู่ในซอกขวดนมและขจัดคราบนั้นออก เพราะคราบเหล่านั้นเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย🦠ที่อาจแพร่เชื้อสู่ทารกได้

ขั้นตอนที่ 2 ล้างด้วยน้ำยาล้างขวดนม

หลังจากถอดชิ้นส่วนของขวดนมออกแล้ว ให้คุณแม่เตรียมเข้าสู่ขั้นตอนการล้าง โดยเปิดน้ำร้อนลงในกะละมัง แล้วจึงเทน้ำยาล้างขวดนม🧴ลงไปผสมกับน้ำร้อนจนเป็นฟอง🫧 หลังจากนั้นจึงนำชิ้นส่วนทั้งหมดลงไปแช่ในกะละมัง

ขั้นตอนที่ 3 นำแปรงมาขัดขวดนม

หลังจากที่ทุกชิ้นส่วนถูกแช่ลงในกะละมัง🪣 ที่เต็มไปด้วยฟองจากน้ำยาล้างขวดนมแล้ว ให้คุณแม่นำแปรงขัด🪥ขวดนมมาทำความสะอาดขวดนม โดยคุณแม่ควรเลือกแปลงที่มีได้มีด้ามจับถนัดมือ สามารถเข้าไปทำความสะอาดตามซอกของขวดนมได้ หลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้ว คุณแม่สามารถนำขวดนมลูกไปต้มหรือนึ่ง♨️ในเครื่องหนึ่งขวดนมเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียอีกรอบ


ความเสี่ยงจากการใช้ขวดนมที่ไม่สะอาด

ติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร

ในกรณีที่คุณแม่ขจัดคราบในขวดนมได้ไม่หมดและคราบนั้นยังติดอยู่ในขวดนม เชื้อโรคและแบคทีเรีย🦠ที่สะสมอยู่ในลักษณะของคราบฝังลึกในขวดนมจะส่งผลให้น้ำนมที่ชงเสียเร็วขึ้นและอาจก่อให้เกิดอาการอาเจียน🤮 ท้องเสีย หรือติดเชื้อในทางเดินอาหารของทารกในที่สุด

     น้ำยาล้างขวดนมนั้นถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญต่อทารกเป็นอย่างมาก  คุณแม่จึงควรให้ความสำคัญในการเลือกน้ำยาล้างขวดนมที่ปราศจากสารเคมี SLS (Sodium Lauryl Sulfate) พาราเบน (Paraben) และได้ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางผิวหนัง👨‍🔬ว่าปลอดภัยต่อทารก เพื่อให้มั่นใจว่าขวดนมของลูกนั้นปราศจากสารตกค้างที่อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาในภายหลัง