post-title

วิธีรับมืออาการแพ้ท้อง

     ปฏิเสธไม่ได้เลยใช่ไหมคะว่าภาวะหรืออาการที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์แทบทุกคนต้องพบก็คืออาการแพ้ท้อง🤢นั่นเอง หากคุณผู้อ่านคือคุณแม่ที่กำลังประสบกับอาการแพ้ท้องไม่ว่าจะน้อยหรือมาก หรือคุณผู้อ่านมีคนรอบตัวหรือคนในครอบครัวที่กำลังแพ้ท้องอยู่ควรดูแลและบรรเทาอาการดังกล่างอย่างไร บทความนี้มีคำตอบสำหรับคุณผู้อ่านค่ะ💁‍♀️


เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอาการแพ้ท้อง

ในคุณแม่ที่เคยแพ้ท้องในระดับปานกลางถึงรุนแรงมาก่อน ในท้องต่อไปคุณแม่ไม่จำเป็นต้องมีอาการแพ้ท้องในระดับเดียวกับครรภ์แรก เพราะการแพ้ท้องนั้นมีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายด้าน จึงไม่อาจคาดคะเนได้ว่าในการตั้งครรภ์🤰แต่ละครั้งคุณแม่จะมีระดับการแพ้ท้องที่เท่ากันหรือไม่ และอาการแพ้ท้องนั้นแม้จะเกิดขึ้นในคุณแม่ส่วนมากก็จริง แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือเพียงพอมาสนับสนุนว่าเป็นอาการที่ส่งต่อทางพันธุกรรม🧬ได้ ดังนั้นหากครอบครัวของคุณแม่ท่านใดมีประวัติการแพ้ท้องที่ค่อนข้างรุนแรงก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเป็นอาการที่ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลมากๆค่ะ


สัญญาณบอกว่าคุณแม่กำลังแพ้ท้อง

คุณแม่อาจมีอาการวิงเวียนศีรษะ🤕 คลื่นไส้จนอยากอาเจียน🤮 ไวต่อกลิ่น👃รอบตัวผิดปกติ อยากรับประทานอาหารแปลกๆที่ปกติตนเองไม่รับประทาน🐛 จนไปถึงอยากรับประทานสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร มีอาการเหนื่อยง่ายและอ่อนเพลียกว่าปกติ ง่วงนอนง่ายและอารมณ์แปรปรวนไม่คงที่ โดยอาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุล่วงหน้า แต่ก็มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่ามาจากการเปลี่ยนแปลงของสมดุลฮอร์โมนในร่างกายคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ค่ะ และอาการเหล่านี้มักเกิดในช่วงเริ่มต้นของการตั้งครรภ์หรือประมาณเดือนที่สองของการตั้งครรภ์

ระดับความรุนแรงของอาการแพ้ท้อง

🟩แพ้ท้องในระดับอ่อนๆ 

เป็นระดับที่เป็นปกติที่พบเจอในคุณแม่ส่วนมากอยู่แล้ว และไม่ได้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของคุณแม่มากนักจึงไม่ใช่ระดับที่น่าเป็นกังวลค่ะ

🟨แพ้ท้องในระดับกลาง

 สำหรับความรุนแรงในระดับนี้ คุณแม่มักมีอาการคลื่นไส้อาเจียน🤮 เบื่ออาหาร มีปัสสาวะสีเข้มกว่าปกติ ซึ่งอาการเหล่านี้ส่งผลให้เกิดอาการที่รุนแรงขึ้นตามมา ไม่ว่าจะเป็นอาการอ่อนเพลีย🥱 แม้ว่าจะนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้วอาการก็ไม่ดีขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันของคุณแม่ ดังนั้นคุณแม่อาจเข้ารับการตรวจร่างกายและขอคำแนะนำในการลดระดับความรุนแรงของการแพ้ท้องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ👩‍⚕️เพิ่มเติมค่ะ

🟥แพ้ท้องในระดับรุนแรง 

มีโอกาสเกิดค่อนข้างน้อย แต่หากเกิดแล้วคุณแม่จะมีอาการดังต่อไปนี้ ไม่ว่าจะเป็นการอาเจียน🤮ถี่จนไม่สามารถรับประทานอาหารหรือน้ำได้เลย ส่งผลให้คุณแม่ประสบกับภาวะขาดน้ำตามมา ทำให้เลือดในร่างกายเป็นกรดหรือภาวะเลือดเป็นพิษ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต☠️ได้ค่ะ หากประสบกับภาวะนี้ควรเข้ารับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันทีว่าจะสามารถบรรเทาได้หรือไม่ หรืออาจรุนแรงถึงขนาดต้องรีบยุติการตั้งครรภ์🤰ค่ะ


วิธีรับมืออาการแพ้ท้อง

วิธีง่ายๆที่ช่วยลดอาการแพ้ท้อง

👉หากคุณแม่รู้สึกคลื่นไส้อาเจียนให้ลองจิบเครื่องดื่มอุ่นๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำอุ่น🍵 น้ำขิงอุ่น นมอุ่นๆ

👉เลือกรับประทานอาหารอ่อนๆ🥣หรืออาหารประเภทที่ย่อยง่าย โดยไม่จำเป็นต้องรับประทานแต่ละมื้อในปริมาณมากๆ แต่ใช้วิธีแบ่งอาหารรับประทานหลายๆมื้อแทน จะช่วยให้คุณแม่จุกเสียดแน่นท้องลดลง บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ในระดับหนึ่งค่ะ

👉เนื่องจากอาการแพ้ท้องมักเกิดขึ้นในช่วงตอนเช้า☀️ของวัน หรือเกิดในช่วงที่คุณแม่ท้องว่างระหว่างวัน คุณแม่จึงควรพกขนมขบเคี้ยวมื้อเล็กๆไว้ใกล้ตัวเสมอ ยกตัวอย่างเช่นขนมจำพวกแครกเกอร์ ขนมปังจืดๆ🍞 หรือขนมกรอบที่ทำจากธัญพืชเพื่อให้ท้องของคุณแม่ไม่ว่างจนเกินไปค่ะ

👉รับประทานผลไม่ในกลุ่มสับปะรด🍍ที่มีส่วนช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร ลดอาการจุกเสียดแน่นท้องของคุณแม่ และการรับประทานกล้วย🍌 ที่ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำตาลในเลือดได้อย่างรวดเร็ว ลดอาการอ่อนเพลียระหว่างวันของคุณแม่ ทำให้อาการวิงเวียนศีรษะเกิดขึ้นได้น้อยลงค่ะ

👉การขยับร่างกายบ่อยๆ 🚶‍♀️เคลื่อนที่บ่อยๆ จะทำให้อาการจุกเสียดแน่นท้องของคุณแม่ลดลงได้ค่ะ

     อย่างไรก็ตามสำหรับวิธีที่แนะนำไปข้างต้นอาจเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลกับคุณแม่บางท่านแต่อาจไม่ได้ผลกับคุณแม่บางท่าน จนไปถึงอาจทำให้อาการแพ้ท้องรุนแรงกว่าเดิม ดังนั้นให้เลือกใช้วิธีที่คุณแม่รู้สึกว่าทำแล้วดีขึ้น🥰 ไม่ต้องฝืนทำวิธีที่ไม่ได้ผลค่ะ เพราะแต่ละวิธีเหมาะกับคุณแม่แต่ละท่านไม่เหมือนกัน และหากมีอาการแพ้ท้องในระดับที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน คุณแม่ควรเข้ารับการดูแลจากแพทย์👩‍⚕️โดยทันทีค่ะ