post-title

คนท้องกินน้ำผึ้งได้ไหม

     หากคุณผู้อ่านเป็นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ หรือมีคนใกล้ตัวจนไปถึงคนในครอบครัวที่กำลังตั้งครรภ์🤰 และกำลังกังวลว่าเมื่อตั้งครรภ์แล้วสามารถรับประทานอะไรได้บ้าง มีอะไรที่ควรหลีกเลี่ยงไม่ควรรับประทาน วันนี้บทความของเราจะพามาดูถึงอาหารยอดนิยมอีกหนึ่งชนิดที่อาจนับเป็นอาหาร เป็นเครื่องปรุง หรือเป็นส่วนประกอบของเครื่องดื่มก็ได้ นั่นก็คือ “น้ำผึ้ง”🍯 นั่นเองค่ะ


ประโยชน์ของน้ำผึ้งต่อคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์

✨ให้พลังงานแก่ร่างกาย

เนื่องจากน้ำผึ้งนั้นมีส่วนประกอบหลักก็คือน้ำตาล คุณผู้อ่านคงจะเดาได้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะว่าประโยชน์หลักๆของมันก็คือแง่ของการให้พลังงาน💪นั่นเอง เมื่อร่างกายได้รับความหวานก็จะรู้สึกผ่อนคลาย🧘‍♀️ และเนื่องจากมันเป็นอาหารที่ให้พลังงาน น้ำผึ้งจึงช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย😪ระหว่างวันของคุณแม่ที่ต้องอุ้มครรภ์ได้ค่ะ

ช่วยในการบำรุงระบบหมุนเวียนโลหิต

น้ำผึ้งมีส่วนช่วยในการบำรุงระบบหมุนเวียนโลหิต🩸ในร่างกายค่ะ เนื่องจากเป็นอาหารอีกชนิดที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ในคุณแม่ที่อยู่ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์นั้น ร่างกายจำเป็นต้องสร้างเลือดในปริมาณที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก เพราะมีเจ้าตัวน้อย👶อีกคนกำลังอาศัยอยู่ในท้องของคุณแม่ ดังนั้นน้ำผึ้งจึงเป็นอาหารอีกชนิดที่เป็นประโยชน์กับคุณแม่ค่ะ

บรรเทาอาการไอ

น้ำผึ้งมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการระคายเคืองคอและอาการไอ😮‍💨 จะทำให้คุณแม่รู้สึกชุ่มคอหากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ


ข้อควรระวังในการรับประทานสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์

🍯ควบคุมปริมาณของน้ำผึ้ง

สำหรับปริมาณที่แนะนำจะอยู่ที่ไม่เกิน 25 กรัมต่อหนึ่งวันค่ะ ถ้าเทียบเป็นช้อนชาก็ประมาณ 5 ช้อนชา🥄นั่นเอง อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้าว่าสารอาหารหลักที่อยู่ในน้ำผึ้งก็คือน้ำตาล ซึ่งก็นับเป็นคาร์โบไฮเดรต หากคุณแม่รับประทานคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่มากเกินไปเป็นระยะเวลาติดต่อกันนานๆ คาร์โบไฮเดรตนั้นก็จะแปรสภาพเป็นไขมันและสะสมตามร่างกายของคุณแม่ ทำให้คุณแม่เกิดโรคแทรกซ้อนอย่างโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และอาจก่อโรคในลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนไปถึงหลังคลอด🤱ได้เลยค่ะ

🍯เลี่ยงการทานน้ำผึ้งกับน้ำร้อนจัด

หากคุณแม่รับประทานน้ำผึ้งผสมน้ำ ควรเลือกน้ำที่มีอุณหภูมิไม่เกิน 60 องศาเซลเซียสหรืออุณหภูมิพออุ่นๆเท่านั้น เพราะความร้อน♨️สามารถทำลายสารอาหารที่เป็นประโยชน์ในน้ำผึ้งได้ค่ะ และควรหลีกเลี่ยงน้ำผึ้งพร้อมกับการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี🍊และดี เนื่องจากน้ำผึ้งสามารถยับยั้งไม่ให้ร่างกายดูดซึมวิตามินเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการรับประทานควบคู่ไปกับอาหารที่มีถั่วเหลืองเป็นองค์ประกอบ เช่นน้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลืองค่ะ เพราะมีโอกาสทำให้คุณแม่มีอาการท้องอืด🤢จากการที่อาหารไม่ย่อย

🍯เลือกน้ำผึ้งที่ผ่านการฆ่าเชื้อ

ในขั้นตอนของการเลือกน้ำผึ้ง คุณแม่ควรเลือกซื้อน้ำผึ้งที่ผ่านขั้นตอนการฆ่าเชื้อ✅หรือการพาสเจอร์ไรส์จากผู้ผลิตมาแล้ว และไม่ถูกเติมสารอะไรเพิ่มหลังกระบวนการฆ่าเชื้อ เพราะน้ำผึ้งที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อนั้น มีแนวโน้มสูงที่จะปนเปื้อนกับเชื้อก่อโรค🦠 ส่งผลให้คุณแม่และลูกน้อยติดเชื้อจากการรับประทานน้ำผึ้งที่ไม่สะอาดได้ค่ะ

🍯ระวังผลข้างเคียงต่อร่างกาย

การรับประทานน้ำผึ้งอาจส่งผลข้างเคียงต่อคุณแม่บางท่าน ไม่ว่าจะเป็นผลข้างเคียงต่อระบบย่อยอาหารที่ทำให้ระบบดังกล่าวทำงานได้ช้าลง ก่อให้เกิดอาการท้องเสีย💩 ท้องผูก ท้องอืด จุกเสียดแน่นท้อง🤢ตามมา หรือส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปาก👄 เพราะน้ำผึ้งนั้นอุดมไปด้วยน้ำตาล ซึ่งเป็นสารอาหารหลักของแบคทีเรียในช่องปากเช่นกันค่ะ

     จะเห็นแล้วนะคะว่าจริงๆแล้วน้ำผึ้งก็เป็นอาหารอีกประเภทที่คุณแม่สามารถรับประทานได้เช่นกัน แต่ต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เลือกซื้อจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ทั้งในด้านของคุณภาพและความสะอาด ที่สำคัญที่สุดคือการเข้ารับคำปรึกษาและคำแนะนำจากแพทย์👩‍⚕️ก่อนรับประทาน เนื่องจากเราทุกคนมีเงื่อนไขทางด้านสุขภาพที่ต่างกัน สารอาหารที่ควรได้รับก็มีโอกาสที่จะมีปริมาณไม่เท่ากัน การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งที่จะสร้างความมั่นใจกับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ได้มากที่สุดค่ะ💁‍♀️