post-title

คนท้องมีเลือดออกแบบนี้ ปกติหรือไม่!?

     การที่มีเลือด🩸ออกจากช่องคลอดในช่วงตั้งครรภ์คงเป็นสิ่งที่น่ากังวลและน่าตกใจไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ แต่สาเหตุของอาการเลือดออกนั้นมาจากอะไร เป็นเรื่องปกติควรนิ่งนอนใจหรือไม่ แล้วต้องมีเลือดออกมากแค่ไหนถึงนับว่าผิดปกติและควรรีบเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เราไปดูกันเลยค่ะ💁‍♀️


เลือดออกในช่วงตั้งครรภ์ที่เป็นปกติต้องเป็นอย่างไร

✨เลือดในช่วงท้องไตรมาสแรก

อันที่จริงแล้วอาการเลือดออกในครรภ์สามารถพบได้กับคุณแม่ที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 3 เดือนแรก และจะหายไปเองในช่วงระยะกลางและระยะหลังของการตั้งครรภ์🤰 อาจเรียกเลือดประเภทนี้ได้ว่า “เลือดล้างหน้าเด็ก”🩸👶 ซึ่งเกิดจากขั้นตอนหลังการปฏิสนธิระหว่างไข่ของคุณแม่และอสุจิของคุณพ่อ และการฝังตัวของตัวอ่อนในเยื่อบุโพรงมดลูก แต่หากพ้นช่วง 3 เดือนแรกแล้วคุณแม่ยังมีอาการเลือดออกจากช่องคลอดโดยไม่ทราบสาเหตุอยู่ จะนับเป็นอาการที่ผิดปกติ ควรรีบเข้าพบแพทย์👩‍⚕️เพื่อวินิจฉัยถึงสาเหตุและแนวทางการรักษาทันทีเพื่อให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณแม่เองและเจ้าตัวน้อยในครรภ์อย่างน้อยที่สุดค่ะ


อาการแบบไหนที่บ่งบอกว่าคุณแม่ควรไปพบแพทย์

🩸เลือดออกจากอุบัติเหตุ

หากคุณแม่ประสบอุบัติเหตุที่มีการกระทบกระเทือนมา ไม่ว่าจะเป็นการล้ม หรือตกจากที่สูง🧗‍♀️ แล้วมีเลือดไหลออกจากช่องคลอด ควรไปพบแพทย์อย่างเร็วที่สุดค่ะ

🩸เลือดออกจากช่องคลอด

มีอาการปวดท้องน้อย เจ็บท้องน้อย😭 รู้สึกถึงกล้ามเนื้อที่กำลังบีบตัว ประกอบกับการมีเลือดออกจากช่องคลอดร่วมด้วย มีเลือดออกจากช่องคลอดในปริมาณที่มากกว่าผิดปกติ อาจมากถึงขั้นมีประจำเดือน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเลือดประจำเดือนเพราะคุณแม่กำลังตั้งครรภ์อยู่ค่ะ


สาเหตุของภาวะเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ

👉เกิดจากการแท้งคุกคาม 

อาการคือ มีเลือดออกจากช่องคลอดตั้งแต่ปริมาณน้อยจนถึงมาก อาจมีอาการปวดท้องน้อยร่วมหรือไม่มีก็ได้ทั้งที่ปากมดลูกยังปิดอยู่ สาเหตุของการแท้งคุกคามนั้นมีความหลากหลายมาก แต่หลักๆอาจเกิดจากการพัฒนาที่ไม่สมบูรณ์ของทารกตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดจากโรคทางพันธุกรรม🧬 ความผิดปกติของสารพันธุกรรมในร่างกายทารกก็เป็นได้ค่ะ

👉เกิดจากภาวะท้องลม

ภาวะท้องลมหรือตั้งครรภ์โดยไม่มีตัวอ่อนในครรภ์🙅‍♀️🚼 สาเหตุมาจากการที่ไข่ของคุณแม่และอสุจิของคุณพ่อเกิดการปฏิสนธิกันจริง แต่ตัวอ่อนนั้นไม่สามารถฝังตัวบนผนังมดลูกได้ทำให้ฝ่อไปในภายหลัง เหลือไว้เพียงถุงการตั้งครรภ์ซึ่งไม่สามารถฝ่อไปเองได้เหมือนตัวอ่อน หากเกิดภาวะนี้ขึ้นต้องได้รับการขูดลอกถุงตั้งครรภ์ออก แต่ก็มีโอกาสหลุดออกมาได้เองเช่นเดียวกันหากถุงตั้งครรภ์มีขนาดเล็กมาก

👉เกิดจากการตั้งครรภ์นอกมดลูก 

ซึ่งก็คือภาวะที่ไข่ของคุณแม่และอสุจิของคุณพ่อสามารถปฏิสนธิกันได้สำเร็จ แต่ไปฝังตัวบริเวณอื่นที่ไม่ใช่ผนังมดลูกนั่นเอง ปกติแล้วภาวะนี้จะนำมาซึ่งอาการปวดท้องน้อย ถ้ามีการแตกของถุงตั้งครรภ์ร่วมด้วยก็จะทำให้เกิดภาวะเลือดคั่ง🩸ในช่องท้อง ทำให้คุณแม่มีความดันโลหิตต่ำ เนื้อตัวซีดลง🥶 นำมาซึ่งภาวะช็อคและเสียชีวิต💀ได้ค่ะ

👉เกิดจากภาวะที่เรียกว่า “การตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก” 

เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติและอาจก่อให้เกิดก้อนมะเร็งในรกได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาด้วยการขูดมดลูก ภาวะนี้มักมาพร้อมกับการที่เลือดออกตั้งแต่ปริมาณน้อยจนถึงมาก คุณแม่จะมีอาการแพ้ท้องที่หนัก🤮 และอาจมีภาวะครรภ์เป็นพิษร่วมด้วยค่ะ

👉เกิดจากความผิดปกติของมดลูกในร่างกายของคุณแม่ 

ไม่ว่าจะในเรื่องของลักษณะโครงสร้างทั่วไป หรือเรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน รวมไปถึงฮอร์โมนที่มีผลต่อการฝังตัวของตัวอ่อน🚼 ซึ่งทำให้ให้ตัวอ่อนมีปัญหาในขั้นตอนการฝังตัวตามมาค่ะ

👉เกิดจากความผิดปกติของรกในท้องของคุณแม่ 

ไม่ว่าจะเป็นภาวะรกเกาะต่ำ หรือภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด ซึ่งทำให้ทารกในท้องมีโอกาสขาดสารอาหารได้ เพราะรกเปรียบเสมือนเครื่องมือในการนำสารอาหาร🍲และแก๊สออกซิเจนจากร่างกายของคุณแม่ถ่ายทอดไปยังร่างกายของเจ้าตัวน้อยในครรภ์👶 หากรกมีปัญหาก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของทารกโดยตรงเลยค่ะ

     อันที่จริงแล้ว อาการเลือด🩸ออกจากช่องคลอดในช่วงใดก็ตามของการตั้งครรภ์นั้นสามารถเกิดอย่างปกติได้ค่อนข้างน้อย เพื่อความมั่นใจ คุณแม่สามารถไปพบแพทย์👩‍⚕️ได้ทันทีเพื่อความสบายใจว่าตนเองกำลังประสบกับภาวะเลือดออกตามปกติหรือไม่ หรือกำลังเลือดออกเพราะมีภาวะแทรกซ้อนในระหว่างการตั้งครรภ์🤰ค่ะ