post-title

คนท้องทาเล็บเจลได้ไหม?

     แน่นอนว่าเรื่องของความสวยงามนั้นเป็นของคู่กันกับคุณผู้หญิง การทำเล็บเจล💅ก็นับเป็นหนึ่งในกิจกรรมด้านความสวยงามยอดนิยมในยุคปัจจุบันเช่นกัน แต่การรักสวยรักงามของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์🤰นั้นจะส่งผลกระทบต่อเจ้าตัวน้อยในครรภ์หรือไม่ ควรทำหรือควรหลีกเลี่ยงไปก่อน บทความของเรามีคำตอบให้คุณผู้อ่านค่ะ💁‍♀️


ทำความรู้จักกับการทำเล็บเจลเบื้องต้น

    สำหรับคุณผู้อ่านเพศชายที่กำลังเป็นคุณพ่อ👨 หรือมีคนรอบตัวรวมถึงสมาชิกครอบครัวที่กำลังเป็นคุณแม่ อาจยังไม่เข้าใจว่าการทำเล็บเจล💅นั้นต่างจากการทาสีเล็บปกติอย่างไร ในการทาเล็บปกติ เมื่อทาสีแล้วรอสีแห้งก็จะเป็นอันเสร็จกระบวนการ แต่สำหรับเล็บเจลนั้น เมื่อทาสีเจลเสร็จ จะต้องนำเล็บเข้าไปอบด้วยแสง UV☀️ เพื่อให้สีแห้ง ดูมันวาวกว่าการทาเล็บปกติ มีความสวยงามมากกว่า อีกทั้งยังติดแน่นอยู่ได้นานมากกว่าการทาเล็บปกติอีกด้วยค่ะ แต่ก็แลกมากับข้อเสียในด้านการติดแน่นทนนาน เพราะคุณแม่ที่ทำเล็บเจลจะไม่สามารถล้างออกเอง ต้องให้ช่างแกะเล็บเจลออกให้เท่านั้นและต้องมีการตะไบเล็บเข้าช่วย หากทำบ่อยๆเล็บมีโอกาสบางลงค่ะ

ความเสี่ยงต่อคุณแม่ในกระบวนการทำเล็บเจล

👉สารเคมีที่ใช้ในกระบวนการทำเล็บนั้นต้องใช้สีเจล สารที่ทำให้เล็บแข็งตัวได้เร็ว จนไปถึงสารเคมีที่ช่วยยืดความติดทนนานของเล็บ ซึ่งล้วนส่งผลข้างเคียงต่อคุณแม่ได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาการในกลุ่มปวดหรือวิงเวียนศีรษะ🤕 ระคายเคืองดวงตา👁️ จมูก👃 ลำคอ จนไปถึงปอด🫁 เป็นพิษต่อระบบตับและไต ทำอันตรายต่อระบบสืบพันธุ์ หากเกิดการสะสมกันมากๆก็นับเป็นสารก่อมะเร็ง และยังส่งผลเสียต่อระบบประสาทของทารกได้อีกด้วย

👉เทคนิคการตกแต่งเล็บ ในการตกแต่งเล็บเป็นขั้นตอนที่มีการใช้กรรไกรตัดเล็บหรือตะไบเล็บร่วมด้วย ซึ่งอาจสร้างบาดแผลบริเวณนิ้ว✋ให้กับคุณแม่โดยไม่ตั้งใจ หากอุปกรณ์ที่ใช้ไม่สะอาดหรือทำเล็บอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่สะอาดก็อาจส่งผลให้คุณแม่ติดเชื้อก่อโรค🦠ได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อรา ติดเชื้อแบคทีเรีย จนไปถึงติดเชื้อไวรัส จริงอยู่ที่เชื้อก่อโรคเหล่านี้ก่อโรคต่อคุณแม่ได้โดยตรง แต่เชื้อบางชนิดก็ส่งผลเสียต่อเด็กในครรภ์ได้เช่นกันค่ะ

👉การใช้รังสี UV☀️ ในการอบเล็บเจล อันที่จริงเราทุกคนสามารถพบรังสี UV ได้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้วซึ่งก็คือการได้รับแดด🌞นั่นเอง เพียงแต่การอบเล็บเจลนั้นจะใช้รังสี UV ที่มีความเข้าสูงกว่าในแดดฉายไปที่เล็บโดยตรง เป็นที่ทราบกันดีว่ารังสี UV นั้นเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เหนี่ยวนำให้เกิดมะเร็งได้หากได้รับในระยะเวลานานๆติดต่อกัน ในข้อนี้นับเป็นความเสี่ยงกับใครก็ตามที่ได้รับรังสี UV ในปริมาณมากโดยไม่ป้องกัน ไม่ได้เสี่ยงกับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ทำเล็บเจลเท่านั้นค่ะ


ควรทำอย่างไรหากอยากทำเล็บเจลในช่วงตั้งครรภ์

ข้อที่ 1️⃣

เลือกร้านที่ถูกสุขอนามัยชัดเจนและมีอากาศถ่ายเท🍃 เพื่อให้คุณแม่ได้รับสารเคมีจากขั้นตอนต่างๆของการทำเล็บเจลให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ข้อที่ 2️⃣

แจ้งคนทำเล็บก่อนว่ากำลังตั้งครรภ์🤰 เผื่อว่าจะสามารถเลือกน้ำยาทาเล็บที่ไม่มีส่วนผสมของโทลูอีน ฟอร์มาลดีไฮด์ (ฟอร์มาลีน) และไดบิวทิลพาทาเลตได้ ส่วนขั้นตอนการล้างเล็บก็พยายามเลือกใช้น้ำยาที่ไม่มี🙅‍♀️ส่วนผสมของอะซิโตน เพราะสารเหล่านี้เมื่อสะสมเป็นระยะเวลานานๆสามารถก่อมะเร็งหรือความผิดปกติอื่นๆของร่างกายแม่และเด็กได้ทั้งสิ้นค่ะ

ข้อที่ 3️⃣

ควรใส่ถุงมือ🧤หรือทาครีมกันแดด🧴บริเวณมือทุกครั้งก่อนไปทำเล็บ เนื่องจากถุงมือและครีมกันแดดจะช่วยให้คุณแม่ได้รับรังสี UV ในขั้นตอนการอบเล็บในระดับที่น้อยลงค่ะ นั่นหมายถึงความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งก็จะน้อยลงเช่นเดียวกันค่ะ

ข้อที่ 4️⃣

ในช่วงที่เล็บยังไม่แห้ง พยายามอย่าใช้ปากเป่าหรือนำเล็บที่พึ่งทาเข้าใกล้บริเวณใบหน้า เนื่องจากสารเคมีในกระบวนการอาจปนเปื้อนมาทางการสูดดม👃ได้ค่ะ

ข้อที่ 5️⃣

เมื่อทำเล็บเจลเสร็จแล้ว คุณแม่ควรไปล้างมือ🤲โดยละเอียดเพื่อป้องกันเรื่องสารเคมีตกค้างบริเวณเล็บที่ผ่านการทำเล็บเจลมาค่ะ

     ถึงแม้การทำเล็บเจลดูจะนับเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพของคุณแม่และเด็กในครรภ์🤰 แต่จะเห็นได้ว่ามีวิธีการลดความเสี่ยงเหล่านั้นอยู่ (แต่ก็ไม่แนะนำให้ทำเล็บเจลบ่อยๆในช่วงตั้งครรภ์นะคะ) ดังนั้นคุณแม่จึงสามารถทำเล็บเจลได้ค่ะ เพียงแต่ไม่ทำถี่จนเกินไปและพิจารณาถึงคุณสมบัติและสุขอนามัยของร้านที่จะไปทำอยู่เสมอเท่านั้นเองค่ะ