post-title

ภาวะไข้ไม่ทราบสาเหตุ

    ปกติแล้วเวลาที่เจ้าตัวน้อยมีไข้🤒และคุณพ่อคุณแม่พาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ด้วยรูปแบบอาการและเทคโนโลยีทางการแพทย์ จะเอื้ออำนวยให้แพทย์สามารถระบุสาเหตุจากการเป็นไข้ได้ สาเหตุหนึ่งของการเป็นไข้ก็คือการติดเชื้อก่อโรค🦠ประเภทไวรัส อย่างไรก็ตามยังมีบางกรณีที่แพทย์ไม่สามารถระบุสาเหตุของไข้อย่างชัดเจนได้เช่นกันจนเกิดเป็นภาวะไข้ไม่ทราบสาเหตุ ภาวะดังกล่าวมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันเลยค่ะ💁‍♀️


ประเภทของภาวะไข้ไม่ทราบสาเหตุ

1️⃣ไข้ไม่ทราบสาเหตุแบบคลาสสิค🤒 (classic Fever of Unknown Origin หรือ classic FUO)

2️⃣ไข้ไม่ทราบสาเหตุที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล🏥 (nosocomial Fever of Unknown Origin หรือ nosocomial FUO)

3️⃣ไข้ไม่ทราบสาเหตุที่เกิดในผู้ป่วยเม็ดเลือด🩸ขาวต่ำ (neutrophil Fever of Unkmown Origin หรือ neutrophil FUO)

4️⃣ไข้ไม่ทราบสาเหตุที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัส🦠 HIV (HIV-associated Fever of Unknown Origin หรือ HIV-associated FUO)

คุณผู้อ่านจะเห็นได้ว่าภาวะไข้ไม่ทราบสาเหตุเองถูกแบ่งออกเป็นหลายชนิดด้วยกัน ซึ่งแต่ละกลุ่มก็จะมีคำจำกัดหรือหลักเกณฑ์ในการตีความไม่เหมือนกัน โดยทั่วไปแล้วในเด็กเล็กจะพบไข้ไม่ทราบสาเหตุแบบคลาสสิคได้ค่อนข้างมาก ในวันนี้บทความของเราจึงขอพูดถึงเพียงไข้ไม่ทราบสาเหตุแบบคลาสสิคเท่านั้นค่ะ

คำจำกัดความของภาวะไข้ไม่ทราบสาเหตุ

👉อุณหภูมิร่างกาย🌡️ของผู้ป่วยสูงขึ้นมากกว่า 38.3 องศาเซลเซียสจากการวัดหลายๆครั้งแล้วหาค่าเฉลี่ย

👉มีไข้🤒อย่างต่อเนื่องนานถึง 3 สัปดาห์ในกรณีที่ยังไม่เข้ารับการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล

👉เข้ารับการตรวจในร่างกายในโรงพยาบาลแล้วแพทย์👩‍⚕️ก็ยังไม่สามารถวินิจฉัยสาเหตุที่แน่นอนได้นานถึง 1 สัปดาห์


อาการที่บอกว่าเด็กเป็นไข้

👉อุณหภูมิของร่างกาย

สิ่งแรกที่ถือว่าบ่งชี้ได้ชัดเจนที่สุดก็คืออุณหภูมิ🌡️ของร่างกายนั่นเองค่ะ หากเด็กมีอุณหภูมิร่างกายสูงถึงประมาณ 38.5 องศาเซลเซียส ให้คุณพ่อคุณแม่สันนิษฐานไว้ก่อนเลยค่ะว่าเจ้าตัวน้อยกำลังมีไข้🤒

👉ร้องไห้งอแง

ในทารกเด็กจะดื่มนม🍼น้อยลง กระสับกระส่ายเวลานอน แม้จะบอกผู้ปกครองยังไม่ได้แต่จะแสดงอาการร้องไห้งอแง😭ออกมา ซึ่งแสดงถึงความรู้สึกไม่สบายตัวค่ะ

👉มีอาการขาดน้ำ

เด็กมีอาการเหมือนคนขาดน้ำ😰 ซึ่งก็คืออาการเสียงแหบ ริมฝีปาก👄แห้งนั่นเองค่ะ

👉มีอาการท้องเสีย

เด็กอาจมีอาการถ่ายท้อง💩และอาเจียน🤮ร่วมด้วยค่ะ


ทำอย่างไรหากลูกมีไข้สูง

วิธีที่ 1️⃣

วิธีที่เห็นผลได้รวดเร็วมากที่สุดก็คือการเช็ดตัวให้เจ้าตัวน้อย ถ้าหากเด็กมีแรงมากพอก็ให้ไปอาบน้ำ🛀ค่ะ เป็นวิธีแรกๆที่ผู้ปกครองควรเลือกใช้ เพราะเด็กที่มีไข้สูงอาจก่อให้เกิดอาการชักเกร็งตามมาได้ค่ะ

วิธีที่ 2️⃣

ให้ลูกรับประทานยาลดไข้💊ควบคู่ ซึ่งก็คือพาราเซตามอลซึ่งถือเป็นยาสามัญประจำบ้านที่ทุกครอบครัวควรมีติดบ้านเอาไว้นั่นเองค่ะ

วิธีที่ 3️⃣

ให้ลูกสวมเสื้อผ้า🎽ที่ถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกายได้ดี

วิธีที่ 4️⃣

ให้ลูกนอนหลับพักผ่อน😴ในที่ที่มีอากาศเย็นสบาย อากาศถ่ายเทได้สะดวก แต่ไม่หนาวจนเกินไปค่ะ

วิธีที่ 5️⃣

สำหรับเด็กที่รับประทานอาหารได้น้อย มีอาการถ่ายท้อง💩และอาเจียน🤮ร่วมด้วย คุณพ่อคุณแม่อาจให้ลูกดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่หรือน้ำหวาน🧃เข้าไปทดแทนในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้เจ้าตัวน้อยของเรายังมีแรงค่ะ

     อันที่จริงแล้วภาวะไข้ไม่ทราบสาเหตุก็มักจะทำให้เจ้าตัวน้อย👶แสดงอาการไม่ได้ต่างจากไข้หวัดทั่วไปมากนัก วิธีการดูแลจึงใกล้เคียงกันและไม่ได้ยากเกินไปสำหรับผู้ปกครอง อย่างไรก็ตามหากลูกเป็นไข้ และผู้ปกครองสังเกตหรือคาดเดาไม่ได้ว่าเด็กเป็นอะไร ก็ควรเข้ารับการตรวจร่างกายจากแพทย์👩‍⚕️เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดก่อน ยังไม่ควรสรุปด้วยตนเองว่าลูกเป็นไข้แบบหาสาเหตุไม่ได้ค่ะ