post-title

สัญญาณเตือนอาการก่อนคลอด

     เชื่อว่าช่วงเวลาหนึ่งสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์🤰และมีอายุครรภ์ที่มากเต็มทีอาจมีความกังวล นั่นก็คือช่วงเวลาก่อนคลอดนั่นเองค่ะ เพราะถือเป็นหนึ่งช่วงเวลาสำคัญที่จะกำหนดชีวิตของเจ้าตัวน้อย👶ในครรภ์ของเราไปได้ยาวๆในอนาคต วันนี้บทความของเราจึงชวนคุณผู้อ่านมาดูถึงสัญญาณก่อนที่บ่งบอกว่าคุณแม่กำลังจะคลอดว่ามีอะไรบ้าง หากคุณผู้อ่านเป็นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์เองจะได้รู้ตัวและมีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจ แต่หากเป็นคุณผู้อ่านที่มีคนรอบตัวจนไปถึงคนในครอบครัวเป็นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ จะได้สามารถช่วยดูแลให้คุณแม่ใกล้คลอดปลอดภัยและอุ่นใจได้ค่ะ💁‍♀️


อาการที่คุณแม่อาจพบในช่วงท้องแก่แต่ยังไม่คลอด

💫อาการท้องลด

คุณแม่อาจรู้สึกหรือสังเกตได้ว่าขนาดท้องของตนเองแฟบลงเล็กน้อย เป็นผลจากการที่เจ้าตัวน้อย👶ในครรภ์เริ่มพลิกตัวกลับหัวมาอยู่ในท่าที่พร้อมออกมาดูโลกภายนอก หรือที่เรียกติดปากกันว่าการ “ท้องลด” นั่นเองค่ะ

💫ปวดปัสสาวะถี่ขึ้น

รู้สึกปวดปัสสาวะง่ายขึ้นและถี่ขึ้น ซึ่งก็เป็นผลมาจากการที่เจ้าตัวน้อยในครรภ์มีการกลับตัวค่ะ เมื่อกลับตัวแล้วบริเวณศีรษะของทารกจะไปเบียดพื้นที่ของกระเพาะปัสสาวะ ดังนั้นหากดื่มน้ำ🚰เข้าไปมากๆ กระเพาะปัสสาวะของคุณแม่จะมีพื้นที่ให้ขยายน้อยลง จึงมีความรู้สึกอยากปัสสาวะบ่อย🚽จนไปถึงอั้นปัสสาวะไม่ค่อยได้ ซึ่งนับเป็นเรื่องปกติสำหรับคุณแม่ที่มีอายุครรภ์มากๆค่ะ

💫มีมูกหรือเมือกขาวไหลออกมาผ่านช่องคลอด 

สำหรับคุณผู้หญิงอย่างเรามักทราบกันดีอยู่แล้วว่ามูกหรือเมือก💦ที่ออกมาจากช่องคลอดนั้นมีลักษณะอย่างไร เนื่องจากมูกเหล่านั้นก็มีลักษณะคล้ายกับสิ่งที่เราเรียกว่าตกขาวตอนก่อนตั้งครรภ์นั่นเองค่ะ มูกที่ออกมาจะค่อนข้างเหนียวข้น ช่วงเวลาที่พบมูกเหล่านี้ได้มักอยู่ในช่วงก่อนที่คุณแม่จะคลอดจริงประมาณ 1-2 สัปดาห์ค่ะ

💫มีอาการเจ็บท้องเตือนหรืออาการเจ็บท้องก่อนคลอด 

มักจะเกิดในช่วงที่คุณแม่มีอายุครรภ์ได้ประมาณ 8 เดือน🤰ซึ่งก็นับเป็นช่วงเวลาท้องแก่แล้ว คุณแม่บางท่านจึงอาจแยกไม่ออก ว่านี่เป็นเพียงอาการเจ็บท้องเตือนหรือเป็นอาการปวดท้องคลอดจริงนั่นเอง แต่อันที่จริงนั้นการปวดสองรูปแบบนี้ก็ไม่ได้เหมือนกันเสียทีเดียว แต่จะมีวิธีการแยกอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูในหัวข้อถัดไปกันเลยค่ะ


เจ็บท้องก่อนคลอดหรือเจ็บท้องคลอดกันแน่

เมื่อคุณแม่มีอายุครรภ์ที่ค่อนข้างมาก ใกล้จะได้เวลากำหนดคลอด⏳แล้ว มักจะมีอาการเจ็บท้องเกิดขึ้น แต่อาการเจ็บท้องในช่วงก่อนคลอดเปรียบเทียบกับเจ็บท้องตอนคลอดจริงก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว โดยจะมีข้อที่แตกต่างกันดังต่อไปนี้ค่ะ

✨ความสม่ำเสมอของการเกิดความรู้สึกเจ็บ 

อาการเจ็บท้องก่อนคลอดแต่ยังไม่คลอด มักจะเป็นๆหายๆ คุณแม่จะรู้สึกเจ็บอย่างไม่สม่ำเสมอ คาดเดาไม่ค่อยได้ แต่หากถึงเวลาคลอดจริง คุณแม่จะมีอาการเจ็บท้องอย่างสม่ำเสมอ คาดเดาและกะประมาณเวลา🕓ได้ว่าตนเองรู้สึกเจ็บทุกกี่นาทีค่ะ

ความถี่ของการเกิดความรู้สึกเจ็บ 

หากเป็นการเจ็บท้องก่อนคลอดแต่ยังไม่คลอด คุณแม่จะรู้สึกเจ็บแต่ละครั้งค่อนข้างห่างกัน อาจห่างกันในหลักชั่วโมงเลยก็เป็นได้ แต่หากคุณแม่รู้สึกเจ็บท้องถี่ขึ้นเป็นหลักนาที⏰ ก็อาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่าคุณแม่กำลังเจ็บท้องคลอดจริงค่ะ

ความรุนแรงของความเจ็บปวด 

หากเป็นเพียงอาการปวดท้องก่อนคลอด🤰 คุณแม่จะรู้สึกปวดไม่มากเท่าตอนปวดจะคลอดจริง แต่ในการปวดท้องจะคลอดจริงนั้น อาจไม่ได้เริ่มจากความรู้สึกปวดอย่างรุนแรงตั้งแต่แรก แต่จะเริ่มรู้สึกปวดมากขึ้นเมื่อระยะเวลาผ่านไปเรื่อยๆค่ะ

บริเวณที่รู้สึกปวด 

สำหรับคุณแม่ที่ปวดท้องก่อนคลอดแต่ยังไม่ถึงเวลาคลอดจริง มักรู้สึกปวดบริเวณท้องน้อยค่ะ แต่หากเป็นสัญญาณปวดเมื่อถึงเวลาคลอดจริง🤰 คุณแม่มักรู้สึกปวดบริเวณส่วนบนของมดลูกไปจนถึงแผ่นหลังได้เลยค่ะ

อาการหลังให้ยาแก้ปวด 

สำหรับอาการปวดท้องก่อนคลอดแต่ยังไม่คลอดจริง เมื่อให้ยาแก้ปวด💊แล้วคุณแม่จะรู้สึกดีขึ้น อาการปวดลดน้อยลง แต่หากเป็นการปวดคลอดจริง ยาอาจช่วยได้ไม่มากนักเพราะอย่างไรก็ตาม มดลูกของคุณแม่ก็ยังบีบตัวเรื่อยๆค่ะ

ขนาดของปากมดลูก 

หากเป็นการปวดท้องก่อนคลอดแต่ยังไม่คลอดจริง ปากมดลูกของคุณแม่จะมีขนาดเท่าเดิมค่ะ แต่หากเป็นสัญญาณเตือนว่าปวดท้องจะคลอดจริง ปากมดลูกของคุณแม่จะขยายขนาดขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมในการเบ่งเจ้าตัวน้อยในครรภ์ออก🤰มาค่ะ


สัญญาณเตือนในการคลอดจริง

อย่างที่เราได้พูดถึงไปในหัวข้ออาการก่อนคลอดว่าคุณแม่สามารถพบมูกออกจากช่องคลอดตัวเองในช่วงที่ท้องแก่มากๆ ช่วงก่อนคลอดมูกนั้นจะมีลักษณะข้นเหนียวคล้ายตกขาว💦ในช่วงก่อนตั้งครรภ์ แต่หากถึงเวลาคลอดแล้วมูกที่ออกมาจะเป็นมูกเลือด🩸ค่ะ

💥อาการถุงน้ำคร่ำแตก

อาการต่อไปนั้นถือว่าเป็นอาการที่ชัดเจนเป็นอย่างมาก และเราต่างก็รู้จักกันดี นั่นก็คืออาการถุงน้ำคร่ำแตกหรือที่เรียกกันง่ายๆว่าอาการน้ำเดิน💧นั่นเองค่ะ โดยปกติแล้วถุงน้ำคร่ำจะมีน้ำคร่ำอยู่ข้างใน ซึ่งเป็นของเหลวที่มีไว้เพื่อห่อหุ้มร่างกายของทารก🚼ไม่ให้ชนหรือเบียดโดยตรงกับอวัยวะภายในของคุณแม่ และมีไว้อำนวยความสะดวกในการพลิกตัวของทารก เมื่อถุงน้ำคร่ำแตกจึงเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าทารกจะอยู่ภายในครรภ์ไม่ได้แล้วนั่นเองค่ะ น้ำคร่ำที่ไหลออกมาสามารถแตกออกมาพรวดเดียวหรือค่อยๆไหลก็ได้ น้ำที่ออกมาจะมีลักษณะใส ไม่เป็นมูก คล้ายปัสสาวะแต่ไม่มีกลิ่นไม่มีสีค่ะ

💥อาการเจ็บท้องคลอด

มีอาการเจ็บท้องคลอดจริง ไม่ใช่เจ็บท้องคลอดหลอกตามที่เราได้จำแนกในหัวก่อนหน้านั่นเองค่ะ

     จะเห็นแล้วนะคะว่าอาการหรือสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณแม่พร้อมคลอดแล้วนั้นไม่ได้สังเกตยากอย่างที่คิด หากคุณผู้อ่านเป็นคุณแม่ที่มีอายุครรภ์👩‍🦳ค่อนข้างมากหรือเป็นคนรอบตัวจนไปถึงคนในครอบครัว👨‍👩‍👧ของคุณแม่ท้องแก่ ควรหมั่นสังเกตอาการเหล่านี้ เพื่อจะได้เตรียมตัวเตรียมใจในวันที่คุณแม่คลอดจริง เป็นการอำนวยความสะดวกให้คุณแม่ไปถึงโรงพยาบาล🏥 อยู่ภายใต้การดูแลของสูตินรีแพทย์👩‍⚕️ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยมากที่สุดค่ะ