post-title

คนท้องใช้น้ำหอมระเหยได้ไหม?

     น้ำมันหอมระเหย🍃นั้นถือเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยในการสร้างเสริมบรรยากาศที่ดีและช่วยให้เราผ่อนคลาย🧘‍♀️ได้เมื่อได้กลิ่น แต่สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์นั้นสามารถใช้ได้หรือไม่ มีผลข้างเคียงอะไรกับเจ้าตัวน้อยในครรภ์หรือเปล่า หากใช้ได้จะสามารถใช้ได้บ่อยแค่ไหน ใช้ได้ปลอดภัยในช่วงเวลาไหน มีข้อควรระวังหรือควรหลีกเลี่ยงอะไรในการใช้น้ำมันหอมระเหยหรือไม่ เราไปดูพร้อมกันเลยค่ะ💁‍♀️


รู้จักน้ำมันหอมระเหยเบื้องต้น

เนื่องจากพืชพรรณ🍃ไม้หลายๆชนิดนั้นมีกลิ่นเป็นของตนเอง แน่นอนเมื่อเราพบว่ามันมีกลิ่นหอม เราจึงหาวิธีในการกักเก็บกลิ่นหอมนั้นไว้ ไม่ว่าจะมาจากส่วนใดของพืชก็ตาม ตั้งแต่กลีบดอก🪷 ใบ☘️ ลำต้น โดยการใช้กระบวนต่างๆในการพากลิ่นที่มากับน้ำมันนั้นออกมากักเก็บไว้อยู่ในรูปหัวเชื้อเข้มข้น ผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์👨‍🔬ออกมาเป็นน้ำมันหอมระเหยนั่นเองค่ะ  นอกจากวัตถุประสงค์ในด้านการสร้างบรรยากาศที่ดีของสถานที่ที่นำไปตั้งทิ้งไว้ และวัตถุประสงค์ทางด้านความผ่อนคลายแล้ว น้ำมันหอมระเหยยังขึ้นชื่อด้านการถูกนำไปใช้ในศาสตร์การรักษาหรือการบำบัดด้วยกลิ่น หรือที่เราเคยผ่านหูผ่านตามากับคำว่าอะโรมาเทอราพีนั่นเองค่ะ

น้ำมันหอมระเหยปลอดภัยสำหรับคุณแม่หรือไม่

คำตอบขึ้นอยู่กับปัจจัยดังนี้ค่ะ

  1. หากคุณแม่มีอายุครรภ์ที่ต่ำกว่า 3 เดือนหรือประมาณ 12 สัปดาห์ควรหลีกเลี่ยงการใช้ไปก่อน🙅‍♀️ ไม่ว่าจะเป็นการใช้จากขวดที่มีความเข้มข้นสูงโดยตรงหรือเป็นการใช้ผ่านเครื่องกระจายกลิ่นที่เรียกว่า diffuser💨 ซึ่งจะทำให้น้ำมันหอมระเหยมีความเจือจางลงมา เนื่องจากช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์นั้นนับเป็นช่วงที่ร่างกายของทั้งคุณแม่เองและเจ้าตัวน้อยในครรภ์มีความอ่อนไหวต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด🤥 อันตรายจากอุบัติเหตุและภาวะแทรกซ้อนต่างๆจึงเกิดขึ้นได้ค่อนข้างง่าย ควรหลีกเลี่ยงการได้รับสารเคมี🧪อย่างไม่จำเป็นไปก่อนค่ะ แต่หากคุณแม่มีอายุครรภ์ที่มากกว่า 3 เดือนหรือ 12 สัปดาห์แล้ว ก็สามารถใช้ได้โดยคำนึงถึงประเด็นถัดไปค่ะ

  2. ตรวจสอบสารเคมี🧪ที่เป็นองค์ประกอบของน้ำมันหอมระเหย หากน้ำมันมีสารที่เรียกว่า “พาทาเลท” หรือที่ชื่อภาษาอังกฤษเขียนว่า Phthalate แนะนำให้หลีกเลี่ยงค่ะ เนื่องจากสารเคมีดังกล่าวจะมีแนวโน้มที่จะทำให้ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายมีภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์⚧️จนไปถึงระบบต่อมไร้ท่อของร่างกายค่ะ แม้ว่าพาทาเลทเองจะไม่ได้ส่งผลต่อคุณภาพของการตั้งครรภ์โดยตรงแต่ก็อาจส่งผลโดยอ้อมต่อร่างกายของคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย👫ในอนาคตได้ โดยปกติแล้วเจ้าสารตัวนี้จะถูกใส่ไว้ในผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมีคุณสมบัติทางด้านการยืดอายุ⏳และความคงทนของกลิ่น ทำให้กลิ่นหอมนั้นอยู่ในผลิตภัณฑ์ได้นานขึ้นค่ะ ดังนั้นหากคุณแม่เลือกได้ ควรเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยที่ระบุว่าไม่มีส่วนประกอบของพาทาเลท หรือที่เรียกว่า Phthalate free นั่นเองค่ะ


 วิธีใช้น้ำมันหอมระเหยให้ปลอดภัยสำหรับคุณแม่

วิธีที่ 1️⃣

หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันหอมระเหยหากมีอายุครรภ์ต่ำกว่า 3 เดือนหรือ 12 สัปดาห์🤰

วิธีที่ 2️⃣

หลีกเลี่ยงน้ำมันหอมระเหยที่มีส่วนประกอบของสารพาทาเลท

วิธีที่ 3️⃣

เลือกใช้น้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากธรรมชาติ🍃ให้มากที่สุด

วิธีที่ 4️⃣

หลีกเลี่ยงการทาน้ำมันหอมระเหยจากขวดเข้มข้นลงที่ผิวโดยตรง ควรเจือจางด้วยน้ำมันทาผิวชนิดอื่นๆ หรือควรเจือจางด้วยเครื่อง diffuser💨


 ประโยชน์ของการใช้น้ำมันหอมระเหย

🍃สร้างบรรยากาศที่ดี

ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในสิ่งแวดล้อมที่คุณแม่อาศัยอยู่

😌ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด 

ช่วยให้คุณแม่ผ่อน🧘‍♀️คลายจนไปถึงบรรเทาอาการวิตกกังวล ที่นำไปสู่ภาวะซึมเศร้าในช่วงตั้งครรภ์

😴ช่วยให้หลับสนิทขึ้น

หากตั้งน้ำมันหอมระเหยหรือตัวกระจายกลิ่นไว้ในห้องนอน🛌 จะชาวยให้คุณแม่หลับสนิทและหลับสบายมากยิ่งขึ้นค่ะ

🤮บรรเทาอาการอาเจียนจากการแพ้ท้อง 

แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลด้วย แม้จะเป็นกลิ่นที่คนทั่วไปรู้สึกหอม แต่ในคุณแม่ที่กำลังมีอาการแพ้ท้อง จะมีประสาทในการรับกลิ่น👃ที่อ่อนไหวกว่าคนปกติและอาจผิดเพี้ยนไป และอาจรู้สึกว่ากลิ่นหอมกลายเป็นเหม็น🙊สำหรับตนเองได้ ดังนั้นคุณแม่สามารถเลือกใช้ตามความพึงพอใจของตนเองได้เลยค่ะ

🥴ช่วยลดอาการปวดเมื่อย

หากคุณแม่ใช้งานในแง่ของการนำน้ำมันหอมระเหยมาทาร่างกาย ก็จะสามารถช่วยในการลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ🦵 และยังลดโอกาสในการเกิดผิวแตกลายได้ เพราะเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับผิวค่ะ

     จะเห็นแล้วนะคะว่าคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์🤰เองก็สามารถใช้น้ำมันหอมระเหยได้ แต่ก็มีปัจจัยให้ตระหนักหลายๆอย่าง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณแม่ควรหมั่นสังเกตร่างกายของตนเองหลังใช้น้ำมันหอมระเหย ว่ามีอาการแพ้😵‍💫หรือมีอการอื่นๆที่แปลกไปกว่าปกติหรือไม่ หากมีอาการก็ไม่ควรมองข้าม เห็นว่าเป็นเรื่องเล็กหรือหายเองได้ ควรเข้ารับการตรวจร่างกายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ👩‍⚕️ค่ะ