post-title

คนท้องมีผื่นระหว่างอก อันตรายไหม?

     ในระหว่างช่วงที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์🤰 มักจะมีสัญญาณหรืออาการแปลกๆมากมาย ทั้งที่ช่วงก่อนตั้งครรภ์นั้นเป็นคุณผู้หญิงที่มีสุขภาพดี ร่างกายปกติมาโดยตลอด วันนี้บทความของเราพามาดูถึงหนึ่งสัญญาณความผิดปกติ นั่นก็คือการเกิดผื่นคันนั่นเองค่ะ เมื่อพูดถึงผื่นโดยทั่วไปอาจจะฟังดูไม่ใช่อาการที่รุนแรงมากใช่ไหมคะ แต่อันที่จริงแล้วผื่นคันนั้นมีหลายลักษณะ การเกิดผื่นจึงสามารถบ่งบอกอะไรได้มากกว่าที่เราทุกคนคิด แต่จะสามารถบอกอะไรได้บ้างนั้น เราไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ💁‍♀️


สาเหตุของการเกิดผื่น

✨ผื่นที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสมดุลในร่างกาย

 เป็นเรื่องธรรมดาที่ช่วงตั้งครรภ์🤰 สมดุลฮอร์โมนของคุณแม่จะเปลี่ยนแปลงไป และหนึ่งในผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนั้นก็คือการที่ผิวหนังบริเวณที่เกิดผื่นนั้นมีลักษณะแห้งแตก จนทำให้รู้สึกคันนั่นเองค่ะ

ผื่นคันทีเกิดจากเหงื่อและความอับชื้นของร่างกาย 

เนื่องจากช่วงที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์นั้น ร่างกายจะมีความอ่อนไหวต่อสิ่งแวดล้อม🍃มากกว่าปกติ สิ่งแวดล้อมที่หมายถึงนั่นก็รวมถึงเหงื่อของคุณแม่เองค่ะ เมื่อมีเหงื่อ😥และไม่ได้ทำความสะอาดร่างกาย🧼บ่อยๆก็จะเกิดการหมักหมมของแบคทีเรีย🦠 เช่นเดียวกับความอับชื้น ที่สามารถก่อให้เกิดการรวมตัวกันของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้เช่นเดียวกัน คุณแม่จึงเป็นผื่นในที่สุดค่ะ

ผิวหนังบริเวณที่เกิดผื่นนั้นมีการอักเสบร่วมด้วย 

การอักเสบสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นผื่นแล้วแต่ไม่รักษาความสะอาดของร่างกาย ไม่ยอมรักษา ใช้มือเกา✋บริเวณผื่น จนทำให้บริเวณผื่นคันติดเชื้อก่อโรค เกิดเป็นแผลอักเสบในที่สุดค่ะ

ผื่นคันจากการแพ้สารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ 

โดยที่สารที่ทำให้ร่างกายตอบสนองด้วยอาการแพ้นั้นแบ่งออกเป็นหลายหมวดหมู่มากค่ะ ไม่ว่าจะแบคทีเรีย🦠 เชื้อรา ฝุ่นในอากาศ ยา💊 สารเคมีบางชนิด🧪 จนไปถึงการแพ้อาหาร แม้จะเป็นสิ่งที่คุณแม่ไม่เคยแพ้มาก่อนก็สามารถแพ้ได้ค่ะ


ผื่นสามารถบ่งบอกโรคอะไรได้บ้าง

👉คุณแม่มีอาการแพ้เหงื่อตัวเอง 

โดยจะมีผื่นคันเกิดขึ้นบริเวณที่เหงื่อออก😥เยอะๆ และเกิดขึ้นเป็นประจำหลังเหงื่อออกค่ะ

👉คุณแม่กำลังเป็นลมพิษ 

โดยผื่นจากภาวะลมพิษจะแผ่ออกเป็นวงกว้าง ยิ่งเกาก็จะยิ่งแผ่กว้างขึ้นค่ะ

👉คุณแม่กำลังแพ้สารที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ 

ไม่ว่าจะเป็นอาหาร สารเคมี ยา💊 ฝุ่น💨 เกสรดอกไม้🌸 ผื่นแพ้มักขึ้นบริเวณปากและผิวหนังโดยทั่วไป และมักจะมีอาการอื่นควบคู่ ไม่ได้มีเพียงแค่ผื่นคัน ยกตัวอย่างเช่นอาการปากบวม👄 ตาบวม👁️จนตาปิด คอบวมจนรู้สึกหายใจไม่ออก

👉ผื่นจากโรคแทรกซ้อน 

ไม่ว่าจะเป็นโรคหัด ที่นอกจากผื่นแล้วยังมีสัญญาณควบคู่อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการไอ😮‍💨 มีน้ำมูกมาก😪 หรือโรคสะเก็ดเงิน ที่มีผื่นในลักษณะเป็นขุยร่วมด้วยและมีโอกาสก่อให้เกิดแผลอักเสบได้ นอกจากนี้ยังมีโรคที่ไม่คาดคิดอย่างโรคไข้เลือดออก ที่ก่อให้เกิดผื่นในผู้ป่วยได้เช่นกัน และจะมีไข้🤒ร่วมด้วย จนไปถึงโรคที่คนส่วนใหญ่ได้สัมผัสอยู่แล้วอย่างโรคอีสุกอีใส ผื่นจะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนใส พร้อมแตกออกอย่างเห็นได้ชัดเจน สำหรับท่านที่เคยเป็นแล้วก็เป็นอีกได้ แต่จะมาในรูปแบบของโรคงู🐍สวัดแทนค่ะ


วิธีการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดผื่น

ข้อที่ 1️⃣

หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่จำเป็นออกไปก่อน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหอมระเหย โลชั่นทาผิว🧴 หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำหอมเป็นส่วนประกอบค่ะ

ข้อที่ 2️⃣

รักษาความสะอาดของร่างกายโดยการอาบน้ำ🛀ตามความเหมาะสม หากรู้สึกว่าตนเองมีเหงื่อมาก💦 เริ่มเกิดความอับชื้นก็สามารถอาบได้เลย ไม่ปล่อยให้เหงื่อแห้งและเหนียวตัวเป็นระยะเวลานานๆ

ข้อที่ 3️⃣

เช็ดร่างกาย🧻ให้แห้งหลังอาบน้ำ ทำให้ส่วนที่จะสัมผัสเสื้อผ้ามีความอัดชื้นน้อยที่สุด

ข้อที่ 4️⃣

เลือกสวมเสื้อผ้าที่ผ่อนคลาย👗 ไม่รัดแน่นจนเกินไป ระบายความร้อน ระบายอากาศ และระบายเหงื่อได้ดี

ข้อที่ 5️⃣

หากเกิดผื่นแล้ว พยายามอย่า🙅‍♀️เกาหรือเอาสิ่งใดไปโดนบริเวณที่เป็นผื่น เพราะจะทำให้ผื่นลุกลาม เป็นผื่นในบริเวณที่กว้างขึ้น หรืออาจทำให้บริเวฯที่เกานั้นกลายเป็นแผล เมื่อแผลติดเชื้อก่อโรค🦠ก็จะทำให้เกิดแผลอักเสบค่ะ

ข้อที่ 6️⃣

พยายามหาหนทางรักษา ไม่ปล่อยผ่านเพราะเห็นว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยค่ะ

     จะเห็นแล้วนะคะว่าการเกิดผื่นในคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์🤰นั้นนับเป็นเรื่องที่พบได้ค่อนข้างบ่อย และอาจไม่ได้ร้ายแรงอะไร แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายใจ คุณแม่ควรเข้ารับการตรวจร่างกาย🩺และคำปรึกษาจากแพทย์👩‍⚕️ค่ะ ถ้าปฏิบัติตามข้อแนะนำของเราแล้วอาการไม่ดีขึ้น ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก สามารถหายขาดเองได้ค่ะ