ประจำเดือน🩸 คือสิ่งที่ผู้หญิงเรามีทุกเดือนกันอยู่แล้ว แต่ถ้าพูดถึง การนับประจำเดือน หลายคนอาจจะสงสัยว่านับยังไง ทำไมต้องนับ จริงๆแล้วการนับประจำเดือนมีความสำคัญอย่างมากค่ะ เพราะเป็นการสังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย หากคุณแม่กำลังเตรียมตัวตั้งครรภ์🤰 สิ่งที่สำคัญและควรใส่ใจ คือการนับประจำเดือนเพราะเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนในการวางแผนการตั้งครรภ์ค่ะ💁♀️
ทำความเข้าใจกับประจำเดือน
✨ประจำเดือน
ประจำเดือน เกิดจากการลอกตัวของเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดออกมาทุกรอบเดือนของผู้หญิง👱♀️ ซึ่งจะแตกต่างกันไป โดยส่วนมากจะเกิดขึ้นในทุกๆ 21-35 วัน แต่ละรอบใช้เวลา 3-7 วัน การที่ร่างกายของเราต้องมีการสร้างเนื้อเยื่อโพรงมดลูกใหม่เสมอ ก็เพื่อให้ร่างกายมีความพร้อมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน เกิดเป็นวงโคจรของรอบเดือน ซึ่งอาจจะปรับเปลี่ยนได้ตามระดับของฮอร์โมนเพศของผู้หญิงด้วยค่ะ
✨ข้อควรรู้เกี่ยวกับประจำเดือน
โดยปกติแล้ว รอบเดือนจะมีทุกๆ 28 วันค่ะ แต่ก็อาจเปลี่ยนไปตามอายุ หากอายุยังไม่ถึง 21 ปี จะมีระยะห่างประมาณ 33 วัน หากอายุ 21 ปีขึ้นไปแล้ว โดยทั่วไปจะมีระยะห่าง 28 วัน และหากอายุ 40 ปีขึ้นไป👩🦳จะมีระยะห่างลดลงเรื่อยๆ หรือประมาณ 26 วันค่ะ โดยเฉลี่ยแล้วเลือดจะหลั่งประมาณ 5 ถึง 12 ช้อนชา บางคนอาจจะมีอาการก่อนมีประจำเดือนเช่น เจ็บเต้านม ท้องอืด หงุดหงิดได้ง่าย🤯 เชื่อว่าวันนั้นของเดือนผู้หญิงทุกคนก็รู้กันดีว่าอารมณ์ขึ้นลงได้ง่ายค่ะ
✨ทำไมต้องนับประจำเดือน
เรานับประจำเดือนเพื่อทำให้เรารู้ วันไข่ตก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์🤰สำหรับคุณแม่ที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ เนื่องจากการตกไข่จะเกิดขึ้นแค่เดือนละครั้ง ไข่ที่พร้อมผสม จะรออยู่ที่ตำแหน่งปลายท่อนำไข่ได้เพียงแค่ 12-24 ชม.เท่านั้นของในแต่ละเดือน หากมีการปฏิสนธิเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ได้ ไข่ก็จะเข้าไปฝังตัวในเยื่อบุหนังมดลูก แล้วกลายเป็นตัวอ่อน เรียกว่าเกิดการตั้งครรภ์ขึ้น แต่ถ้าไข่นั้น ไม่ปฏิสนธิภายใน 14 วัน ก็จะเป็นเลือดประจำเดือน🩸ออกมาตามปกติค่ะ ดังนั้นการที่คุณแม่นับประจำเดือน จึงเป็นการวางแผนที่ดีสำหรับคุณแม่ที่กำลังรอคอยการมีลูกน้อย👶ค่ะ
นับประจำเดือนให้รู้วันไข่ตก
🗓️เรียนรู้วิธีนับประจำเดือน
เริ่มจากคุณแม่ ควรจดบันทึก📝วันที่ประจำเดือนมาไว้ทุกๆ เดือนสม่ำเสมอเป็นเวลา 8-12 เดือน แล้วนำมาคำนวณ ดังนี้ค่ะ
1. คำนวณเพื่อหาความยาวรอบเดือน ให้คุณแม่ลองนับย้อนไปวันแรกที่มีประจำเดือนครั้งเดือนล่าสุด🩸 จนถึงวันแรกที่มีประจำเดือนของเดือนที่ผ่านมา เช่น เดือนล่าสุดที่ผ่านมาคือวันที่ 8 มกราคม เดือนที่ผ่านมาก็คือวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เราจะได้ความยาวรอบเดือนคือ 30 วันค่ะ
2. หาวันตกไข่ที่แน่นอน มีวิธีง่ายๆคือการเอาความยาวรอบเดือน มาลบด้วยระยะเวลาที่ไข่ตก เช่น มีประจำเดือนวันล่าสุดคือวันที่ 8 มกราคมจากวันนี้ ให้เรานับไปอีก 16 วัน เราก็จะได้วันไข่ตก คือวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นั่นเองค่ะ เมื่อคุณแม่ได้รู้วันไข่ตกที่แน่นอนแล้ว💯 ก็สามารถนัดแนะกับคุณพ่อ👨 มีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อนวันไข่ตก หรือ หลังวันตกไข่ประมาณ 2 วัน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ไข่และอสุจิได้มาเจอไข่ เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์นั่นเองค่ะ
👉เทคนิคง่ายๆในวันไข่ตก
การมีเพศสัมพันธ์ก่อนไข่ตกประมาณ 1-2 วัน จะทำให้อสุจิได้ไปรอที่รังไข่ เพื่อเจอกับไข่ที่จะตกลงมา แล้วทำการปฏิสนธิจนเกิดการตั้งครรภ์ขึ้น🤰 โดยคุณแม่ๆที่มีรอบเดือนมาอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน คือ 28 วัน วันไข่ตก ก็คือวันที่ 14 ของรอบเดือนค่ะ แต่การตกไข่ของแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ให้สังเกตจาก 2 สัปดาห์ก่อนวันประจำเดือนมา จะเป็นช่วงไข่ตกค่ะ
🔎สังเกตอาการไข่ตก
ในช่วงตกไข่อุณหภูมิ🌡️ในร่างกายของคุณแม่จะสูง ตอนเช้าจะลดลงเล็กน้อย และจะเพิ่มขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงหลังการตกไข่ค่ะ สังเกตว่าจะมีตกขาวมากขึ้น และมีลักษณะเมือกบาง💦 คล้ายไข่ขาว โดยทางการแพทย์จะเรียกตกขาวนั่นว่า มูกที่ปากมดลูก (Cervical Mucus) เป็นมูกที่จะช่วยให้อสุจิเข้าไปผสมกับไข่ได้ง่ายขึ้น ปากมดลูกกว้างขึ้นและมีอารมณ์ทางเพศมากขึ้นค่ะ😍 ถ้ามีอาการข้างต้น ก็ให้คุณแม่รู้ได้เลยค่ะ ว่าวันไข่ตกมาถึงแล้ว