ความฝันของผู้หญิงหลายคน คือการอยากเป็นคุณแม่🤰 อยากมีลูกน้อย👶 ร่างกายคุณแม่พร้อม แต่ด้วยสถานการ์ณปัจจุบันและปัจจัยหลายๆด้านรอบตัว คุณแม่ทุกคนก็อยากให้ลูกน้อยมาเกิดในวันที่คุณแม่พร้อมที่สุด การฝากไข่ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการวางแผนการตั้งครรภ์ในอนาคตค่ะ แต่การฝากไข่คืออะไร ฝากแล้วจะมีโอกาสที่จะมีลูกได้เท่าไหร่ วันนี้เรามีคำตอบมาให้แล้วค่ะ💁♀️
ฝากไข่คืออะไร ทำไมต้องฝาก
🧪ฝากไข่คืออะไร
ฝากไข่ หรือ Egg Freezing คือ กระบวนการแช่แข็งของเซลล์ไข่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในวิธีที่ช่วยรักษาคุณภาพของเซลล์ไข่ผู้หญิงไว้อย่างดี เพื่อเก็บไข่เอาไว้สำหรับการตั้งครรภ์🤰เมื่อคุณแม่พร้อมในอนาคตค่ะ โดยแพทย์จะทำการดูดเอาไข่สุขภาพดีจากรังไข่ออกมา แล้วนำไปแช่แข็งไว้ที่อุณหภูมิติดลบถึง -196 องศาเซลเซียส🌡️ และจะนำไข่ออกมาเพื่อใช้ปฏิสนธิกับอสุจิของคุณพ่อ เมื่อคุณแม่ผู้ฝากไข่ต้องการตั้งครรภ์
🔎ทำไมผู้หญิงควรฝากไข่
ตามธรรมชาติของผู้หญิง เมื่อเราอายุเพิ่มขึ้น ไข่ก็มีคุณภาพน้อยลงตามมาค่ะ และเมื่อไข่ลดจำนวนลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปแล้ว ส่งผลให้เกิดการมีบุตรยากขึ้น หรือหากไม่มีประจำเดือนแล้ว เรียกว่าการก้าวสู่วัยทอง👩🦳 รังไข่ของคุณแม่ ก็จะเริ่มหยุดการทำงาน คุณแม่ที่วางแผนจะมีลูกน้อย ควรคิดถึงการฝากไข่ให้เร็วที่สุด ไม่ควรเกินอายุ 40 ปีค่ะ แต่หากว่าอายุเกิน 40 ปีไปแล้ว คุณแม่ควรปรึกษากับแพทย์👩⚕️โดยตรง ดังนั้นยิ่งคุณแม่เข้าฝากไข่เร็วที่สุดเท่าไหร่ ไข่ก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพที่ดี ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ดีมากยิ่งขึ้นค่ะ
เริ่มเตรียมตัวเพื่อกระบวนการฝากไข่
มาเตรียมตัวก่อนฝากไข่กันค่ะ
🥦เลือกทานอาหารที่เป็นประโยชน์
เพื่อเป็นการเตรียมตัวในการฝากไข่ คุณแม่ควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ แป้งน้อย น้ำตาลน้อย อาหารที่มีโปรตีนสูง ลดขนมขบเคี้ยว🍿 การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยสร้างสมดุลให้กับร่างกายและไม่ควรทานอาหารหลัง 6 โมงเย็นนะคะ
💊เสริมวิตามินและอาหารเสริม
นอกจากการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว การรับเสริมวิตามินและอาหารก็มีความสำคัญมากค่ะ เพื่อให้คุณแม่ผลิตไข่ที่แข็งแรงเพื่อลูกน้อย👶ในอนาคต เช่น Astaxanthin, CO-Q10, Methyl Folate และ Vitamin D หรือ Pregnable F Begin ในขั้นตอนนี้สามารถปรึกษาแพทย์เรื่องการรับประทานวิตามินและอาหารเสริม
💤หลับให้มีคุณภาพ พักผ่อนให้เพียงพอ
คุณแม่ควรหลับให้มีคุณภาพคืออย่างน้อย 8 ชั่วโมง ควรพักผ่อนเพียงพอ😴 เพื่อทำให้ร่างกายปรับสมดุลได้ดี ช่วยลดภาวะความเครียด เมื่อคุณแม่มีสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดีพร้อมสำหรับการเข้าเริ่มกระบวนการฝากไข่
☀️การรับแสงแดดให้เพียงพอในตอนเช้า
ตื่นเช้ามารับแดดอ่อนๆกันค่ะ🌞 อย่างน้อยเป็นเวลา 30 นาทีทุกวัน จะช่วยกระตุ้นจังหวะการหลับตื่น (Sleep Cycle) ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยให้คุณแม่นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น
เปอร์เซ็นต์ความสำเร็จและโอกาสการตั้งครรภ์ด้วยไข่ที่ฝาก
🥚เปอร์เซ็นต์สำเร็จของการฝากไข่
เปอร์เซ็นต์ตวามสำเร็จของการฝากไข่ นั่นจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยค่ะ เรื่องอายุ ยิ่งอายุน้อยกว่า 35 ปี จำนวนไข่ก็จะมีคุณภาพดี มีจำนวนไข่เยอะ มีโอกาสคัดเลือกไข่ที่สมบูรณ์ได้มากกว่า ถ้าคุณแม่อายุมากกว่า 40 ปี👩🦳 จำนวนไข่ที่มีและคุณภาพไข่ที่ฝากก็จะลดลง ดังนั้นคุณแม่ที่วางแผนจะมีลูกในอนาคต ยิ่งฝากเร็วเท่าไหร่ยิ่งดีค่ะ
จากข้อมูลโรงพยาบาล BNH เทียบโอกาสเป็นเปอร์เซ็นต์ในการตั้งครรภ์ด้วยไข่ที่ฝาก อายุ 30 - 35 ปี
👉อายุ 30-35 จำนวนไข่ที่ฝากน้อยกว่า 10 ฟอง จะมีโอกาสสำเร็จอยู่ที่ 69% หรือน้อยกว่า
จำนวนไข่ที่ฝากมากกว่า 20 ฟอง จะมีโอกาสสำเร็จอยู่ที่ 90% หรือน้อยกว่า
โอกาสการตั้งครรภ์ด้วยไข่ที่ฝาก อายุ 37 ปี
👉อายุ 37 จำนวนไข่ที่ฝากน้อยกว่า 10 ฟอง จะมีโอกาสสำเร็จอยู่ที่ 50% หรือน้อยกว่า
จำนวนไข่ที่ฝากมากกว่า 20 ฟอง จะมีโอกาสสำเร็จอยู่ที่ 75% หรือน้อยกว่า
โอกาสการตั้งครรภ์ด้วยไข่ที่ฝาก อายุ 40 ปี
👉อายุ 40 จำนวนไข่ที่ฝากน้อยกว่า 10 ฟอง จะมีโอกาสสำเร็จอยู่ที่ 30% หรือน้อยกว่า
จำนวนไข่ที่ฝากมากกว่า 20 ฟอง จะมีโอกาสสำเร็จอยู่ที่ 51% หรือน้อยกว่า
โอกาสการตั้งครรภ์ด้วยไข่ที่ฝาก อายุ 42 ปี
👉อายุ 42 จำนวนไข่ที่ฝากน้อยกว่า 10 ฟอง จะมีโอกาสสำเร็จอยู่ที่ 20% หรือน้อยกว่า
จำนวนไข่ที่ฝากมากกว่า 20 ฟอง จะมีโอกาสสำเร็จอยู่ที่ 37% หรือน้อยกว่า
🧊สามารถแช่แข็งไข่ได้นานแค่ไหน
ถ้าเราพูดถึงในทางทฤษฎี ก็ต้องบอกว่าสามารถเก็บไว้ได้ตลอดไปค่ะ💯 สามารถเก็บไว้ได้นานเท่าที่ความเย็นมากเพียงพอที่จะเก็บไว้ได้ค่ะ เพราะเซลล์ไข่จะหยุดการทำงานเมื่ออยู่ในอุณหภูมิที่ติดลบ แต่หากเราจะพูดกันในทางในทางปฏิบัตินั่น เราขอแนะนำว่าให้นำไข่มาใช้ภายใน 5-10 ปีจะดีที่สุดค่ะ และแนะนำให้ฝากเข่ก่อนอายุ 40 ปีค่ะ เพราะหากเกินกว่านี้อาจจะทำให้คุณแม่มีภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์🤰 หรืออาจส่งผลต่อลูกน้อยในท้องได้ค่ะ