post-title

สายสะดือย้อย

    คุณแม่🤰หลายๆคนมีความกังวลเกี่ยวกับสายสะดือที่พันรอบคอของทารกในช่วงไตรมาสที่สามใช่ไหมล่ะคะ โดยเฉพาะเวลาที่มาอัลตราซาวด์แล้วเห็นว่าสายสะดือพันกันไปมามักเกิดความกังวล😰 และเป็นห่วงลูก กลัวว่าลูกจะเป็นอันตรายหรือไม่ สิ่งนี้เรียกว่าสายนูชาล เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในประมาณ 20-30% ของการตั้งครรภ์ค่ะ 


สายสะดือย้อยคืออะไร

โดยปกติแล้ว สายสะดือไม่เป็นสาเหตุของการเตือนภัยค่ะ เนื่องจากสายสะดือออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยให้ทารก🚼เคลื่อนไหวและเปลี่ยนตำแหน่งภายในครรภ์ได้ บางครั้งทารกอาจเคลื่อนไหวในลักษณะที่ส่งผลให้สายสะดือพันรอบคอหรือที่เรียกกันว่าสายสะดือย้อยนั่นเองค่ะ  ในกรณีส่วนใหญ่ สายสะดือไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงใดๆ ต่อทารกค่ะ แต่ในกรณีที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก หากสายสะดือพันแน่นหรือถูกบีบอัดระหว่างการคลอด อาจส่งผลต่อปริมาณออกซิเจนของทารก ในกรณีดังกล่าว ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจะติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ🫀ของทารกอย่างใกล้ชิดระหว่างการคลอดเพื่อให้แน่ใจว่าทารกมีความเป็นอยู่ที่ดีค่ะ

✨สายสะดือย้อยสามารถเกิดขึ้นจากปัจจัยใดได้บ้าง มีอาการอย่างไร

จริงๆแล้วมีความเป็นไปได้ในหลายกรณีที่คุณแม่ๆ🤰จะเกิดภาวะสายสะดือย้อยนะคะ สามารถสังเกตได้เมื่อสายสะดือหลุดผ่านปากมดลูกไปข้างหน้าทารกในระหว่างการคลอดค่ะ ซึ่งส่งผลให้เกิดการกดทับหรือการอุดตันของสายสะดือค่ะ สาเหตุที่แท้จริงของสายสะดือย้อยนั้นไม่ชัดเจนเสมอไป แต่ปัจจัยบางอย่างที่อาจเพิ่มความเสี่ยงก็มีนะคะได้แก่ ผังผืดแตกก่อนกำหนดหรือน้ำคร่ำแตก💦ก่อนเริ่มคลอด การแสดงเจตนาที่ไม่ถูกต้องของทารก เช่น นอนก้นหรือนอนขวาง หรือแม้แต่การตั้งครรภ์หลายครั้ง ตั้งครรภ์แฝด👯‍♂️ หรือ ภาวะ Polyhydramnios น้ำคร่ำมากเกินไป เรื่องของสายสะดือยาวก็มีส่วนเหมือนกันค่ะและบางกรณีก็เกิดความผิดปกติของรกหรือสายสะดือนั่นเองค่ะ ส่วนอาการต่างๆก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลด้วยนะคะว่า ภาวะสายสะดือย้อยเกิดจากสาเหตุไหน ซึ่งคุณแม่บางท่านก็จะรู้สึกได้จากความเจ็บปวดอย่างฉับพลันและรุนแรงระหว่างการหดตัว หรือบางท่านสังเกตได้จากสายสะดือที่มองเห็นหรือคลำได้ที่ยื่นออกมาจากช่องคลอด บางท่านเห็นจากการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์ลดลง หรือการวัดค่าหัวใจเต้นเร็ว🫀ของทารก หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงของรูปแบบอัตราการเต้นของหัวใจของทารกบนจอภาพ🖥️ของทารกในครรภ์ค่ะ


วิธีป้องกันสายสะดือย้อยในระหว่างตั้งครรภ์และการคลอดลูก

คุณแม่ๆสามารถดูแลก่อนคลอดโดยการตรวจสุขภาพ🩺ก่อนคลอดกับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพเป็นประจำค่ะ เป็นสิ่งสำคัญในการระบุปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งช่วยให้สามารถตรวจพบและจัดการสภาวะที่อาจมีส่วนทำให้สายสะดือย้อยได้ตั้งแต่เนิ่นๆนะคะ หรือแม้แต่การวางตำแหน่งของทารกในครรภ์ เช่นการกระตุ้นให้ทารกตั้งศีรษะลงในมดลูกในช่วงระยะหลังของการตั้งครรภ์สามารถช่วยลดความเสี่ยงของสายสะดือได้ พูดคุยถึงเทคนิคต่างๆ เช่น ท่าคุกเข่ากับแพทย์👩‍⚕️ของคุณแม่ๆค่ะ และการหลีกเลี่ยงการแทรกแซงที่ไม่จำเป็น เช่น การตรวจภายในช่องคลอดมากเกินไปหรือการแตกของเยื่อเทียม สามารถช่วยป้องกันสายสะดือย้อยได้เช่นก้นนะคะ

💥ในกรณีที่สายสะดือย้อยต้องได้รับการช่วยเหลือทันที

ความช่วยเหลือฉุกเฉิน🚨ทันทีเป็นสิ่งจำเป็นมาก คุณแม่ๆสามารถโทรขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉิน🚑ในพื้นที่ได้ค่ะเพื่อให้แน่ใจว่าความช่วยเหลือทางการแพทย์จากผู้เชี่ยวชาญ👩‍⚕️จะมาถึงโดยเร็วที่สุด ที่สำคัญคุณแม่ๆควรรักษาท่าทีที่สงบและผ่อนคลายและลดความวิตกกังวล โดยให้บุคคลรอบข้างช่วยคุณแม่ๆด้วยนะคะเช่นการจัดตำแหน่งของแม่ๆให้อยู่ในท่าคุกเข่าหรือท่า Trendelenburg โดยยกสะโพกขึ้นและศีรษะต่ำลง ซึ่งช่วยลดแรงกดบนสายสะดือและทำให้เลือดไหลเวียน🩸ไปยังทารกได้ดีขึ้นค่ะ และที่ลืมไม่ได้คือ ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือดันสายสะดือกลับเข้าไปในช่องคลอด เพราะอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อไปได้ค่ะ