post-title

ท้องแล้วมีน้ำลายมากเกินไป ผิดปกติไหม

เป็นที่ทราบกันดีสำหรับคุณผู้หญิงที่ตั้งครรภ์🤰ว่าในระหว่างช่วงที่ตั้งครรภ์อยู่นั้น มักจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและจิตใตที่ผิดแปลกออกไปจากช่วงก่อนตั้งครรภ์ โดยไม่ได้มีสัญญาณใดบอกมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นในช่วงก่อนตั้งครรภ์ วันนี้บทความของเราพามาดูอาการแปลกๆของคุณผู้หญิงตั้งครรภ์อีกหนึ่งอาหาร นั่นก็คือการที่คุณผู้หญิงบางท่านอาจรู้สึกว่าตนเองมีน้ำลายมาก💦ผิดปกติ แม้จะไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน แต่ก็เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ อาการนี้เป็นอันตรายหรือไม่ จำเป็นต้องได้รับการรักษาหรือไม่ เราไปดูกันต่อเลยค่ะ💁‍♀️


รู้จักกับอาการน้ำลายมากเบื้องต้น

 อันที่จริงแล้วภาวะนี้มีศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่าภาวะ Hypersalivation ซึ่งไม่ได้เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้กับคุณผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์เท่านั้น🤰 แต่ยังสามารถเกิดได้กับทุกคน เพียงแต่หากเปรียบเทียบกัน มักจะพบได้ในคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์มากกว่าค่ะ อาการของภาวะนี้ก็ค่อนข้างตรงตัว นั่นก็คือการที่ต่อมน้ำลายนั้นผลิตน้ำลายมามากกว่าปกตินั่นเองค่ะ โดยอาการนี้มักจะเกิดขึ้นกับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในไตรมาสแรกหรืออายุครรภ์ประมาณสามเดือนนั่นเองค่ะ

สาเหตุของอาการน้ำลายมากผิดปกติ

1.สำหรับสาเหตุหลักของอาการน้ำลายมากกว่าปกตินั้น ก็เป็นผลมาจากเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสมดุลฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์เช่นเดียวกับอาการแพ้ท้อง🤮ในรูปแบบอื่นๆเลยค่ะ อาการนี้ไม่ถือเป็นอันตรายต่อร่างกาย ทั้งร่างกายของคุณแม่เองและเจ้าตัวน้อย และมักจะหายไปเองเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ถึงช่วงไตรมาสที่สอง หรือเมื่อคุณแม่มีอายุครรภ์เกินช่วง 3 เดือนไปนั่นเอง แม้จะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายแต่ก็อาจสร้างความหงุดหงิดใจกับคุณแม่ระหว่างใช้ชีวิตประจำวันได้ค่ะ

2.คุณแม่มีภาวะฟันผุ🦷 ซึ่งอาจส่งผลให้มีน้ำลายมากขึ้นได้

3.คุณแม่มีแผลอักเสบในช่องปาก👄 จนไปถึงบริเวณลำคอและทอนซิล

4.คุณแม่มีภาวะกรดไหลย้อนร่วมด้วย หากเกิดจากสาเหตุนี้ นอกจากคุณแม่จะรู้สึกว่ามีปริมาณน้ำลายที่มากผิดปกติแล้ว คุณแม่อาจรู้สึกว่ามีอาการน้ำลายเปรี้ยว🥴 และรู้สึกแสบร้อนกลางอกร่วมด้วย ในกรณีนี้คุณแม่ไม่ควรปล่อยผ่านและเข้ารับการตรวจร่างกาย วินิจฉัยจากแพทย์ค่ะ👩‍⚕️

5.ร่างกายคุณแม่ได้รับสารพิษอันตรายบางกลุ่ม ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มโลหะหนักชนิดต่างๆ รวมไปถึงควันพิษในอากาศ💨 เป็นอีกหนึ่งกรณีที่คุณแม่ไม่ควรปล่อยผ่าน ควรเข้ารับการตรวจร่างกายจากแพทย์เช่นเดียวกันค่ะ


วิธีบรรเทาอาการน้ำลายมากผิดปกติ

✨ใส่ใจกับการดูแลความสะอาดภายในช่องปากเพิ่มขึ้น 

สามารถทำได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการแปรงฟัน🪥ให้บ่อยขึ้น ใช้ไหมขัดฟันและน้ำยาบ้วนปากควบคู่ไปด้วยก็ได้เช่นกันค่ะ

หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มบางกลุ่ม 

เช่น อาหารที่มีรสเปรี้ยวมากๆ🍋 เมื่อรับประทานแล้วสามารถกระตุ้นการหลั่งของน้ำลายมาก อย่างที่คุณผู้อ่านอาจสังเกตตนเองได้ว่า เมื่อเห็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น มะม่วงเปรี้ยว🥭 น้ำลายก็จะพุ่งออกมาเองแม้ทำเพียงนึกถึงเท่านั้น ยังไม่ได้รับประทานจริง นอกจากนี้ผลไม้รสเปรี้ยวยังกระตุ้นให้คุณแม่บางคนเกิดอาการแพ้ท้อง🤮ที่หนักกว่าเดิมได้อีกด้วยค่ะ นอกจากผลไม้รสเปรี้ยวแล้ว ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดอื่นๆด้วยเช่นกัน ไม่ว่จะเป็นเผ็ด เค็ม หวาน

ดื่มน้ำระหว่างใช้ชีวิตประจำวันให้มากขึ้น

 ปริมาณน้ำเปล่าสะอาดที่คุณแม่ควรได้รับต่อวันจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ลิตร หากคิดเป็นแก้วก็จะอยู่ที่ประมาณ 7-8 แก้วต่อวันเท่านั้นเองค่ะ หรืออาจจิบน้ำสมุนไพร🍵ควบคู่ด้วยก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ

เคี้ยวหมากฝรั่ง

คุณแม่อาจใช้วิธีการเคี้ยวหมากฝรั่งในระหว่างวันเข้ามาช่วยได้ค่ะ

งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์

หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน☕️และแอลกอฮอล์ รวมถึงการใช้สารเสพติดประเภทใดๆก็ตามค่ะ

     อ่านมาถึงตรงนี้ คุณผู้อ่านก็จะได้ทราบกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะว่าภาวะการมีน้ำลายมาก💦ผิดปกติในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์นั้น ไม่ได้มีอันตรายอะไรต่อทั้งกับร่างกายของคุณแม่เองและเจ้าตัวน้อย👶ในครรภ์ เพียงแต่อาจจะรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของคุณแม่ได้อยู่บ้าง นอกจากภาวะนี้จะไม่ได้มีอันตรายต่อร่างกายแล้ว การเกิดภาวะนี้ก็ไม่ได้สามารถบ่งบอกได้ถึงเพศของเด็กในครรภ์ได้ตามความเชื่อที่ถูกส่งต่อกันมาอีกด้วย หากคุณผู้ปกครองอยากทราบเพศของลูก วิธีที่ดีที่สุดก็ยังคงเป็นการตรวจอัลตร้าซาวนด์ในช่วงอายุครรภ์ที่เหมาะสมอยู่ค่ะ