โรคปอดอักเสบ🫁หรือปอดบวมในเด็กเป็นโรคติดเชื้อที่ร้ายแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้ซึ่งส่งผลต่อปอดโดยตรงเลยค่ะ สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับโรคปอดบวมนะคะ เนื่องจากการแทรกแซงและการป้องกันแต่เนิ่นๆ เป็นกุญแจสำคัญในการดูแลลูก👶ของเราให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงค่ะ
โรคปอดอักเสบเกิดจากอะไร
โรคปอดบวม🫁ในเด็กเกิดขึ้นเมื่อถุงลมในปอดเกิดการอักเสบและเต็มไปด้วยของเหลวหรือหนอง ทำให้หายใจลำบาก การติดเชื้อนี้อาจเกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่ แบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ แบคทีเรีย🦠 Streptococcus pneumoniae ไวรัสทางเดินหายใจ (RSV) และไวรัสไข้หวัดใหญ่ เด็กบางกลุ่มมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคปอดบวม ซึ่งรวมถึงทารกและเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี หรือเด็กที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ รวมถึงผู้ที่มีภาวะสุขภาพเรื้อรังด้วยนะคะ เช่น โรคหอบหืดหรือโรคหัวใจ🫀และเด็กที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แออัดหรือเต็มไปด้วยควัน
✨อาการของโรคปอดบวม
อาการก็อาจแตกต่างกันไปค่ะ แต่สัญญาณทั่วไปที่ต้องระวัง ได้แก่ อาการไอ ซึ่งอาจสร้างเสมหะได้ค่ะ อาการหายใจเร็ว😮💨หรือลำบากเกินไป อาการเจ็บหน้าอกหรือไม่สบายบ่อยๆ อาการมีไข้ มักมีอาการหนาวสั่นร่วมด้ว อาการความเมื่อยล้าหรืออ่อนแรง😰 อาการเบื่ออาหาร รวมถึงการกินอะไรไม่ค่อยได้ด้วยค่ะ และอาการริมฝีปากหรือเล็บมีสีฟ้า อันนี้จัดอยู่ในกรณีที่รุนแรงมากค่ะ
วิธีรักษาปอดอักเสบ
การรักษาทั่วไป คือการใช้ยาปฏิชีวนะ💊 หากปอดบวมเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย แพทย์จะสั่งยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมเพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อ บ้างก็ใช้ยาต้านไวรัส หากปอดบวมเกิดจากไวรัส อาจสั่งยาต้านไวรัสให้ผู้ป่วยได้ค่ะ สิ่งสำคัญคือการพักผ่อน😴 และดื่มน้ำให้เพียงพอค่ะจะสนับสนุนกระบวนการบำบัดของร่างกายได้ดีนะคะ อีกวิธีคือการใช้ยาบรรเทาปวดที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น ไอบูโพรเฟน สามารถช่วยบรรเทาอาการไข้🤒 ความเจ็บปวด และการอักเสบได้ บ้างก็ใช้ยาระงับอาการไอ หากอาการไอของคุณรุนแรงหรือต่อเนื่อง แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาระงับอาการไอเพื่อบรรเทาอาการค่ะ และสุดท้ายคือการการบำบัดด้วยออกซิเจน ในกรณีที่รุนแรง อาจให้ออกซิเจนเสริมเพื่อให้แน่ใจว่าระดับออกซิเจนในเลือดเพียงพอค่ะ
💊ใช้ยาต้านเชื้อรา
และอีกหนึ่งวิธีคือการรักษาจำเพาะ ซึ่งในบางกรณีผู้ป่วยมีอาการปอดบวมจากแบคทีเรีย🦠 มักใช้ในการรักษาโรคปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย บางกรณีปอดอักเสบจากไวรัส อาจมีการกำหนดยาต้านไวรัสเพื่อรักษาโรคปอดอักเสบจากไวรัสที่เกิดจากไวรัสบางชนิด หรือบางกรณีเป็นโรคปอดอักเสบจากเชื้อรา อาจมีการสั่งยาต้านเชื้อรา เช่น fluconazole หรือ amphotericin B เพื่อรักษาโรคปอดอักเสบจากเชื้อรา และบางกรณีเป็นโรคปอดอักเสบจากการสำลัก การรักษาอาจรวมถึงยาปฏิชีวนะ💊 กายภาพบำบัดทรวงอก และการรักษา
วิธีป้องกันโรคปอดอักเสบ
👉1. รับวัคซีน
ตรวจดูให้แน่ใจว่าคุณได้รับวัคซีน💉ป้องกันโรคปอดบวมที่แนะนำ เช่น วัคซีนนิวโมคอคคัสคอนจูเกต (PCV13) และวัคซีนนิวโมคอคคัสโพลีแซคคาไรด์ (PPSV23) วัคซีนเหล่านี้สามารถป้องกันสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของโรคปอดบวมจากแบคทีเรีย
👉2. รักษาสุขอนามัยที่ดี
ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่🧼และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารและหลังใช้ห้องน้ำ หากไม่มีสบู่และน้ำ ให้ใช้เจลทำความสะอาดมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
👉3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย
โรคปอดบวมอาจเกิดจากไวรัสและแบคทีเรียหลายชนิดที่สามารถแพร่กระจายผ่านทางละอองในทางเดินหายใจ พยายามหลีกเลี่ยง🙅♀️การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อทางเดินหายใจ
👉4. ปิดปากและจมูก เมื่อไอหรือจาม
ให้ใช้ทิชชู่🧻หรือข้อศอกปิดปากและจมูก แทนที่จะใช้มือ ซึ่งจะช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
👉5. รักษาวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี
ระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงสามารถช่วยป้องกันโรคปอดบวมได้ รับประทานอาหารที่สมดุล🍲 ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ😴 และจัดการกับระดับความเครียด
👉6 หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และควันบุหรี่มือสอง
การสูบบุหรี่🚬ทำลายปอดและทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ทำให้คุณติดเชื้อทางเดินหายใจได้ง่ายขึ้น
👉7. ติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพทั่วไป
ไปพบผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพเป็นประจำเพื่อตรวจสุขภาพ และปฏิบัติตามการตรวจคัดกรองหรือการรักษาที่แนะนำเพื่อรักษาสุขภาพโดยรวม
เพื่อป้องกันโรคปอดบวมในเด็ก👶 สิ่งสำคัญคือต้องใช้มาตรการป้องกันบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในสถานที่ที่มีผู้คนแออัดหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วย เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อโรคที่ติดเชื้อได้และให้รักษาสภาพแวดล้อมในบ้านให้สะอาดอยู่เสมอโดยการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงควันบุหรี่🚬 ควันไฟ🔥 ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ และสภาพอากาศที่หนาวจัด❄️ เพราะสิ่งเหล่านี้อาจทำให้ระบบทางเดินหายใจอ่อนแอลง และทำให้เด็กๆ ติดเชื้อได้ง่ายขึ้นค่ะ รวมถึงการฝึกนิสัยด้านสุขอนามัยที่ดีให้กับเด็กก็เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคปอดบวม สนับสนุนให้เด็กๆ ล้างมือ🤲ให้สะอาดและบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารหรือสัมผัสใบหน้า ช่วยกำจัดเชื้อโรคที่อาจติดมากับมือ ได้ค่ะ