คุณแม่หลายๆท่านอาจจะมีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของลูกน้อย👶ในครรภ์ ลูกมีสุขภาพดีไหม หรือว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นในครรภ์รึเปล่า วันนี้ทางเราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับทารกในครรภ์ คือ ภาวะทารกโตช้าในครรภ์ (IUGR) มาให้คุณแม่ได้ทราบถึงปัจจัยต่างๆที่ทำให้ลูกเสี่ยงต่อการเป็นภาวะนี้และผลกระทบที่จะตามมาค่ะ💁♀️
ภาวะทารกโตช้าในครรภ์ (IUGR) คืออะไร?
ภาวะทารกโตช้าในครรภ์ (intrauterine growth restriction : IUGR) คืออาการผิดที่เกิดขึ้นกับทารกในครรภ์ ซึ่งรุนแรงถึงสามารถทำให้ทารกเสียชีวิต💀ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ได้ ตั้งแต่อายุครรภ์ 22 สัปดาห์ไปจนถึงน้อยกว่า 7 วันหลังคลอด ภาวะนี้มีความรุนแรง ของการเสียชีวิตเป็นอันดับที่ 2 รองจากการคลอดก่อนกำหนด
3 สาเหตุหลักที่ทำให้ทารกเสี่ยงเสียชีวิตมาจาก
1.ทารกมีพัฒนาการที่ไม่สมบูรณ์
2.ทารกพิการแต่กำเนิด
3.ทารกมีภาวะขาดอากาศหายใจ
สาเหตุของการเกิดภาวะ IUGR
✨สาเหตุจากทารก (fetal causes)
สาเหตุนี้เป็นผลกระทบมาจากการติดเชื้อ🦠ภายในครรภ์ เช่น วัณโรค มาลาเรีย หรือซิฟิลิส รวมไปถึงความผิดปกติของโครโมโซมในทารก และความพิการตั้งแต่กำเนิด เช่นทารกหัวใจ🫀พิการตั้งแต่กำเนิด หากอาการที่กล่าวมาเหล่านี้มีความรุนแรงก็จะส่งผลให้ ภาวะIUGR รุนแรงขึ้นไปด้วย
✨สาเหตุจากคุณแม่ (maternal causes)
หากคุณแม่ได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ🥦 รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ซึ่งทำให้เกิดการขาดสารอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตั้งครรภ์แฝดที่คุณแม่ต้องใส่ใจเรื่องสารอาหารให้เพียงพอต่อลูกน้อยในครรภ์ และคุณแม่ที่มีภาวะโลหิตจางขณะตั้งครรภ์ โรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด รวมไปถึงคุณแม่ที่เสพติดการสูบบุหรี่🚬และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
✨สาเหตุจากรก (placental causes)
หากรกเกิดการเสื่อมสภาพลง รกเกาะต่ำ รกลอกตัว รวมไปถึงหากสายสะดือมีปัญหา อาการเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อพัฒนาการของทารก และทำให้ทารกได้รับสารอาหารจากแม่น้อยลง🔽 จนเสี่ยงเข้าสู่ภาวะทารกโตช้าค่ะ
ความเสี่ยงของภาวะ IUGR ต่อคุณแม่และทารกในครรภ์
👉ผลกระทบต่อทารกในครรภ์
ทารกอาจมีอาการเลือดไม่สมบูรณ์🩸 เช่น มีปริมาณแคลเซียมและน้ำตาลต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งจะทำให้ทารกติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกติ มีความเสี่ยงต่อพัฒนาการ เสี่ยงที่จะพิการแต่กำเนิด และร้ายแรงที่สุดคือเสี่ยงทำให้ทารกเสียชีวิต💀ภายในครรภ์ได้ค่ะ
👉ผลกระทบต่อคุณแม่ตั้งครรภ์
สำหรับคุณแม่ที่มีแพลนจะคลอดแบบธรรมชาติ อาจจะต้องเปลี่ยนมาเป็นการผ่าคลอด ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลต่อสุขภาพจิตใจของตัวคุณแม่ หากคุณแม่สะสมความเครียด🤯มากเกินไปในช่วงตั้งครรภ์ จะส่งผลเสียต่อคนตัวคุณแม่เองและทารกในครรภ์ไปด้วยค่ะ
คุณแม่คงได้ทราบถึงสาเหตุและความรุนแรงของภาวะทารกโตช้าในครรภ์กันแล้วใช่ไหมคะ คุณแม่ควรให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพตนเอง เช่นการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ😴 ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ให้ได้มากที่สุด อีกทั้งคุณแม่ควรสังเกตอัตราการดิ้นของทารกเนื่องจากอัตราการดิ้นนั้นเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสุขภาพและความปลอดภัยของทารกในครรภ์ หากคุณแม่พบว่าทารกดิ้นน้อย หรือไม่ดิ้นเลย ควรรีบไปพบแพทย์👩⚕️ทันทีค่ะ