post-title

แม่ท้องเป็นไข้เลือดออก อันตรายต่อลูกไหม

  ปัจจุบันโรคไข้เลือดออก🦟ในประเทศไทยนั้นมีการแพร่ระบาดไปอย่างมาก คุณแม่จึงมักมีคำถามว่าหากคนท้องเป็นไข้เลือดออก จะส่งผลอันตรายต่อลูกในครรภ์ไหม? วันนี้ทางเราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุของไข้เลือดออกและแนวทางการรักษา หากคุณแม่ตั้งครรภ์เป็นโรคไข้เลือดออกค่ะ💁‍♀️


ไข้เลือดออก คืออะไร

โรคไข้เลือดออกเกิดจากไวรัสเดงกี (Dengue) ที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค รูปนี้มักมีการระบาดเป็นอย่างมากในช่วงฤดูฝน🌧️ เพราะเป็นช่วงที่ยุงชุกชุม🦟 อาการของโรคไข้เลือดออกจะแสดงออกมาหลังจากถูกกัดภายใน 3-15 วัน โดยอาการจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ระยะ

💥ระยะที่ 1 

ผู้ป่วยจะมีอาการไข้🤒สูงมากกว่า 38 องศา และเมื่อผ่านไปเป็นระยะเวลา 3-4 วันไข้ก็ยังไม่ลดลง มีอาการปวด

เบ้าตา และปวดกระดูกเหมือนกระดูกจะแตก🦴 ผ่านไปสักระยะจะเริ่มมีผื่นขึ้นตามผิวหนังเป็นปื้นๆ

💥ระยะที่ 2

เริ่มมีการแสดงออกของจุดเลือดตามผิวหนัง โดยจุดที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นเหมือนรอยยุงกัดแต่จะมีสีเข้มและชัดเจนกว่า ในบางรายอาจมีอาการเลือดกำเดาไหลและมีเลือดออกตามเหงือกและไรฟัน🦷 หากมีอาการรุนแรงเป็นอย่างมากอาจจะมีอาการอาเจียน🤮เป็นเลือดร่วมด้วย

💥ระยะที่ 3

หากอาการไข้จะลดลง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงภาวะช็อกที่ใกล้เข้ามา ผู้ป่วยจะมีความดันต่ำลงแต่หัวใจ🫀จะมีอัตราการเต้นที่เร็วมากขึ้นผิดปกติ มีเหงื่อออก😰มากกว่าปกติและมีอาการกระสับกระส่ายร่วมด้วย

💥ระยะที่ 4

ระยะสุดท้ายของโรคไข้เลือดออกจัดว่าเป็นภาวะช็อกขั้นรุนแรง🚨 ผู้ป่วยจะมีความดันต่ำมาก 3 จนถึงขั้นที่ไม่สามารถวัดความดันได้ เลือดจะไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงตับ ไต และส่วนต่างๆของร่างกายได้ ทำให้คุณแม่ที่ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกในระยะนี้อาจมีการเสียชีวิตได้💀


ผลกระทบของโรคไข้เลือดออกต่อทารกในครรภ์

1️⃣ ในไตรมาสแรก (12 weeks)

หากคุณแม่ที่เป็นไข้เลือดออกในช่วงไตรมาสแรก ถือว่ามีความเสี่ยงสูงมากที่จะทำให้รูปภายในครรภ์นั้นแท้ง🩸หรือเสียชีวิตได้💀

2️⃣ ในไตรมาสสอง (12-28 weeks)

ความเสี่ยงของคุณแม่ที่เป็นโรคไข้เลือดออก🦟ในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสสอง คือ เสียงที่จะคลอดก่อนกำหนด ทำให้ทารกที่คลอดออกมามีน้ำหนักน้อยและตัวเล็ก แต่ลูกก็ยังจะปลอดภัยเพราะว่ายังไม่มีการติดเชื้อไวรัสเดงกี

3️⃣ ในไตรมาสสาม (29-40 weeks)

ในไตรมาสที่ 3 นี้ถือเป็นช่วงที่อันตรายมากที่สุด🚨 หากคุณแม่ท้องเป็นไข้เลือดออกในช่วงนี้ อาจจะทำให้ ทารกในครรภ์ติดเชื้อไข้เลือดออกผ่านทางสายสะดือได้ และหากเป็นไข้เลือดออกในระยะที่ 3-4 นั้นจะส่งผลให้ลูกน้อยเสียชีวิตในครรภ์ทันที💀 หากคุณแม่มีอาการตกเลือดจากการผ่าคลอด


แนวทางการป้องกันโรคไข้เลือดออก

👉กางมุ้งนอน

การที่คุณแม่กางมุ้ง⛺️นอนนั้นจะเป็นการป้องกันไม่ให้ยุงกัด ทั้งในเวลานอนกลางวันและนอนกลางคืน

👉กำจัดแหล่งยุงลาย

คุณแม่ควรกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายตรงบริเวณในบ้านและบริเวณรอบๆบ้าน รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการวางภาชนะต่างๆที่สามารถทำให้มีการขังของน้ำได้ เช่น กระถางต้นไม้ แจกันดอกไม้🏺 และยางรถยนต์

👉ทาครีมกันยุง

วิธีป้องกันที่ง่ายที่สุดคือ การทาครีมกันยุง🧴ทุกครั้งที่คุณแม่รู้สึกว่าอยู่ในบริเวณที่มียุงชุกชุม เพื่อสามารถป้องกันไม่ให้ยุงลายกัดแล้วแพร่เชื้อเข้าสู่ร่างกายของคุณแม่ค่ะ

  ในปัจจุบันยังไม่มียาต้านเชื้อไวรัสเดงกีโดยเฉพาะ การรักษาโรคไข้เลือดออก🦟นั้นจึงเป็นการรักษาตามอาการ คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีความอับชื้นและใกล้แหล่งน้ำ🏞️ เพราะนั่นคือเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณแม่ควรป้องกันด้วยวิธีง่ายๆโดยการทายากันยุงหรือจุดยากันยุงค่ะ