post-title

การเจาะชิ้นเนื้อรกเพื่อวินิจฉัย แม่ตั้งครรภ์ไม่ควรมองข้าม!

     คุณแม่อาจจะเคยได้ยินคำแนะนำจากคุณหมอเกี่ยวกับการเจาะชิ้นเนื้อรก โดยการเจาะนี้จะเป็นการใช้เข็ม💉เจาะผ่านหน้าท้องของคุณแม่และทำการเก็บชิ้นเนื้อเพื่อมาโดยใช้อุปกรณ์สอดผ่านทางปากมดลูก การเจาะชิ้นเนื้อรกเพื่อวินิจฉัยสามารถบ่งบอกความผิดปกติของทารกได้อย่างไรบ้าง ทางเราได้หาคำตอบมาให้คุณแม่แล้วค่ะ💁‍♀️


การเจาะชิ้นเนื้อรกเพื่อวินิจฉัยโรคของทารกในครรภ์

อายุครรภ์ของคุณแม่ที่เหมาะสมในการเจาะชิ้นเนื้อรกเพื่อตรวจวินิจฉัยนั้นสามารถทำได้ในคุณแม่ที่มีอายุครรภ์ 10 สัปดาห์ขึ้นไปค่ะ🤰  และชิ้นเนื้อรบจะถูกแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน คือ Superficial layer of trophoblast และ Vilious core ต่อไปเราจะพาคุณแม่มาทราบถึง 2 วิธีการเจาะชิ้นเนื้อรบเพื่อวินิจฉัยโรคของทารกในครรภ์ มีดังต่อไปนี้

1️⃣ Fetal karyotyping

เป็นวิธีการตรวจโครโมโซมจากชิ้นเนื้อรกจากการเพาะเลี้ยงเซลล์ ซึ่งจะแบ่งออกได้เป็น 2 เทคนิค ได้แก่การเพาะเลี้ยงเซลล์แบบ short- term culture และการเพาะเลี้ยงเซลล์แบบ long-term culture ซึ่งแบบที่ 2 จะมีการแบ่งตัวช้ากว่าแบบแรก และเซลล์ที่ได้มาจะเป็นเซลล์ที่มาจากทารก👶มากกว่าค่ะ

2️⃣ DNA analysis for single gene defects

เป็นการนำชิ้นเนื้อรกมาสกัดให้ได้ fetal DNA🧬 เพื่อมาวิเคราะห์หาความผิดปกติของทารกในครรภ์ การเจาะแบบนี้จะได้ fetal DNA ประมาณ 35 ไมโครกรัม จากการเจาะชิ้นเนื้อรกในไตรมาสแรก ซึ่งมีค่ามากกว่าการเจาะ fetal DNA ที่ได้จากการเจาะน้ำคร่ำ แต่การเจาะชิ้นเนื้อรกมีโอกาสที่จะมีการปนเปื้อนเซลล์ของแม่ได้มากกว่าการเจาะน้ำคร่ำ ดังนั้นแพทย์จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษในการแยก maternal decidua ออกไปให้หมดก่อนนำมาวินิจฉัยค่ะ


วิธีการเตรียมตัวสำหรับคุณแม่ก่อนทำการเจาะชิ้นเนื้อรก

👉ตรวจสอบจากข้อบ่งชี้ในการทำหัตถการ

ก่อนทำการเจาะชิ้นเนื้อรกนั้นคุณแม่ควรพิจารณาหากตนเองมีข้อบ่งชี้มากกว่า 1 ข้อ เช่นเป็นคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในช่วงอายุมาก👩‍🦳 ซึ่งสามารถทำให้เกิดภาวะเสี่ยงต่อภาวะโครโมโซมผิดปกติของทารกในครรภ์ และยังเสี่ยงต่อการทำให้ทารกเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงได้

👉เลือกช่องทางการทำหัตถการที่เหมาะสม

การเจาะชิ้นเนื้อรกนั้นสามารถทำได้ 2 ช่องทาง คือ 1. การดูดเก็บชิ้นเนื้อรบผ่านการใช้เข็มเจาะผ่านหน้าท้องของแม่ และ 2. การดูดเก็บหรือตัดชิ้นเนื้อรกไว้โดยใช้อุปกรณ์สอดผ่านทางปากมดลูก โดยการเจาะชิ้นเนื้อรกนั้นคุณแม่ต้องเลือกทำผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง คุณแม่สามารถปรึกษาแพทย์👩‍⚕️เพื่อรับคำแนะนำในการเลือกวิธีที่ปลอดภัยต่อตัวคุณแม่ได้ค่ะ

     การเจาะตรวจชิ้นเนื้อรกนั้นถือเป็นการเจาะดูสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นในระหว่างคุณแม่ตั้งครรภ์🤰 เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าทารกมีความผิดปกติทางกรรมพันธุ์🧬หรือไม่ เช่น การตรวจหาภาวะดาวน์ซินโดรม เป็นต้น