post-title

วิธีรับมืออาการปวดหลังหลังคลอด

     คุณแม่ที่เพิ่งคลอดเจ้าตัวน้อยหลายๆท่านคงจะพบเจอกับปัญหาอาการปวดหลังหลังคลอดกันใช่ไหมคะ อาการปวดหลังหลังคลอดของคุณแม่บางท่านอาจรุนแรงถึงขั้นส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การนั่ง หรือแม้กระทั่งการนอน วันนี้ทางเราได้รวบรวมวิธีรับมือกับอาการปวดหลังของแม่ท้องมาให้คุณแม่ทราบไปพร้อมๆกันค่ะ💁‍♀️


สาเหตุของอาการปวดหลังหลังคลอดลูก

อาการปวดหลังหลังคลอดของแม่ตั้งครรภ์มักจะมาจากฮอร์โมนเหล่านี้จะอยู่กับคุณแม่ไปอีก 2-3 เดือน เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังหลังคลอดนั่นเอง โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 6 ถึง 8 สัปดาห์ กว่าข้อต่อและเนื้อเยื่อรอบข้างจะปรับตัวให้ทรงตัวและรับน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย สาเหตุที่ทำให้คุณแม่ท้องมีอาการปวดหลัง มีดังต่อไปนี้

1️⃣ เกิดจากแม่ท้องมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น

 สาเหตุหลักที่ทำให้แม่ท้องปวดหลัง มาจากการมีน้ำหนักของครรภ์อยู่บริเวณหน้าท้องที่มากขึ้น🤰 จึงส่งผลให้กระดูกสันหลังแอ่นตัว ทำให้เกิดการเกร็งกล้ามเนื้อเพื่อแบกรับน้ำหนักช่วงส่วนหลังมากยิ่งขึ้นตามอายุครรภ์ 

2️⃣ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย

 แม่ตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะฮอร์โมนที่มีชื่อว่า รีแล็กซิน (Relaxin)  เป็นฮอร์โมนที่สร้างมาจากรังไข่ในขณะตั้งครรภ์ ฮอร์โมนนี้จะช่วยกระตุ้นการคลายตัวของเอ็นยึดกระดูกเชิงกราน ช่วยให้คุณแม่คลอด🚼ได้ง่ายขึ้น 

3️⃣ เกิดจากกล้ามเนื้อส่วนกลางของลำตัวแยกจากกัน 

หลังจากคลอดลูกแล้ว มดลูกก็จะขยายใหญ่ขึ้นเช่นกัน เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์👶 จึงทำให้กล้ามเนื้อส่วนกลางลำตัวเกิดการแยกออกจากกัน เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณแม่จึงมีอาการปวดหลัง

4️⃣ เกิดจากความเครียดในช่วงตั้งครรภ์ 

ในช่วงท้องคุณแม่มักจะมีอาการวิตกกังวล😰และมีความเครียดต่างๆเกิดขึ้นจนสะสมไปถึงช่วงหลังคลอด จึงส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการตึงตัว และทำให้คุณแม่มีอาการปวดหลังนั่นเอง

5️⃣ เกิดจากร่างกายเสียการทรงตัว 

เนื่องจากในช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์ หน้าท้องมีขนาดที่ใหญ่มากขึ้น น้ำหนักจึงถูกถ่วงไปที่ด้านหน้า ทำให้เสียสมดุลของการทรงตัว ไม่ว่าจะเป็นการทรงตัวในช่วงนั่ง หรือการทรงตัว🧍‍♀️ในอริยาบทต่างๆด้วย ทำให้แผ่นหลังมีการแอ่นตัวเพื่อทำการพยุงตัวให้สมดุลมากขึ้น เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณแม่ถึงต้องเผชิญกับอาการปวดหลัง


วิธีบรรเทาอาการปวดหลังหลังจากคลอดลูก

✨จัดท่านอนให้ถูกต้อง

ในช่วงเวลานอนหลับพักผ่อนตอนกลางคืน คุณแม่ควรเปลี่ยนจากท่านอนหงายเป็นนอนตะแคง ให้งอเข่าและวางขาอีกข้างลงบนหมอนข้าง เพื่อทิ้งน้ำหนักตัวลงบนหมอนข้างได้อย่างพอดี เพราะการนอนตะแคงจะเป็นการช่วยให้น้ำหนักตัวและน้ำหนักหน้าท้องถูกถ่ายลงไปยังหมอนข้าง ส่งผลให้กล้ามเนื้อหลังได้ผ่อนคลาย😌มากยิ่งขึ้น

ไม่ควรนั่งหลังงอ

คุณแม่ท้องควรนั่งหลังตรง ถ้าหากมีอาการปวดหลังควรหาเก้าอี้ที่มีพนักพิงมาใช้💺 รวมไปถึงอาจหาเบาะนุ่มๆมาช่วยหนุนหลังได้ ควรหลีกเลี่ยงการนั่งหลังงอ การนั่งไขว่ห้าง และการนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน ควรที่จะขยับตัวอยู่บ่อยๆ

เลี่ยงการยกของหนัก

คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนัก📦เป็นอันขาด เนื่องจากการยกของหนักจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องและส่วนหลังเกิดอาการเกร็งจะเป็นผลเสียต่อครรภ์ หากมีความจำเป็นที่ต้องยกของหนักจริง ๆ ควรฝึกท่ายกให้ถูกวิธี ด้วยการยืนแยกเท้าออกให้เท่าช่วงสะโพก ปลายเท้าเฉียงเล็กน้อย จากนั้นค่อย ๆ งอเข่าแล้วหย่อนตัวลงตรง ๆ เพื่อให้น้ำหนักตัวอยู่ตรงกลางและสะโพก แล้วใช้กำลังแขนและไหล่เป็นส่วนช่วยในการยกของ โดยท่านี้จะหลีกเลี่ยงการใช้แรงจากส่วนหลังและไม่ให้กล้ามเนื้อในส่วนของหน้าท้องทำงานหนักมากเกินไป

ออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนัก

คุณแม่ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและควบคุมน้ำหนักตามให้อยู่ในเกณฑ์ที่แพทย์กำหนดไว้ เพื่อช่วยลดอาการปวดหลัง ควรเลือกเล่นกีฬาเบาๆที่ไม่มีการปะทะ และไม่เป็นการหักโหมจนเกินไป เช่น พิลาทิส โยคะ🧘‍♀️ และว่ายน้ำ เป็นต้น

ทาครีมแก้ปวดหลัง

คุณแม่สามารถหาครีมแก้ปวดหลัง🧴มาทาเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดลงไปได้ หรืออาจจะหาน้ำมันมานวดหลัง หรือใช้น้ำยาในการนวด และควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับครีมแก้ปวดหลังก่อนใช้เสมอ เพื่อเป็นการเลี่ยงการใช้ยาหรือน้ำมันที่อาจส่งผลกระทบต่อเด็กในครรภ์

ใช้หมอนรองครรภ์

คุณแม่สามารถใช้หมอนรองครรภ์ที่เคยใช้ตอนตั้งครรภ์มาบรรเทาอาการปวดหลังได้ โดยเลือกหมอนในเหมาะกับสรีระของตัวคุณแม่ เพื่อให้คุณแม่นอนในท่าที่ถูกต้อง😴และสามารถบรรเทาอาการปวดหลังที่เกิดขึ้นลงไปได้

หลีกเลี่ยงการยืนนาน

การยืนเป็นเวลานานก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีอาการปวดหลังหลังคลอดลูก คุณแม่ควรนั่งพักบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการสวมใส่รองเท้าส้นสูงขณะตั้งครรภ์ โดยแพทย์แนะนำให้คุณแม่สวมใส่รองเท้าส้นสูง👠ได้ไม่เกิน 1-2 นิ้ว เพื่อสร้างความสมดุลต่อการเคลื่อนไหว และป้องกันอุบัติเหตุได้อีกด้วย

      ทราบอย่างนี้แล้วคุณแม่ก็ควรปฏิบัติตามวิธีบรรเทาอาการปวดหลังหลังคลอดของคุณแม่ตามข้างต้นที่กล่าวมา และใส่ใจสุขภาพของตนเองมากยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพคุณแม่ แต่หากปวดมากควรไปพบแพทย์👩‍⚕️นะคะ