post-title

อาการของคุณแม่ตั้งครรภ์ 3 สัปดาห์

     ร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์ 3 สัปดาห์จะเป็นช่วงที่คุณแม่มีระดับฮอร์โมน และค่า hCG ในเลือดชัดเจนมากยิ่งขึ้น แล้วมีสิ่งไหนที่คุณแม่ควรระวังในขณะตั้งครรภ์ 3 สัปดาห์ วันนี้ทางเราได้รวบรวมข้อมูลมาให้คุณแม่ทราบพร้อมๆกันแล้วค่ะ💁‍♀️


การเปลี่ยนแปลงของร่างกายในช่วงตั้งครรภ์ 3 สัปดาห์

👉อาการครั่นเนื้อครั่นตัว

คุณแม่จะมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว และมีอาการอาการไข้ต่ำ🤒 อาการเหล่านี้จะปรากฏในช่วงหัวค่ำ ซึ่งอาการนี้จัดว่าเป็นอาการปกติ คุณแม่ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะคะ วิธีดูแล คือ ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะทำให้อาการทุเลาลงได้

👉อาการปวดหลัง

คุณแม่จะพบเจอกับอาการปวดหลัง เนื่องจากร่างกายมีการขยายตั้งแต่ช่วงอุ้งเชิงกรานลงมา เพื่อเตรียมรองรับตัวอ่อนที่กำลังจะเกิดขึ้น อาการปวดหลัง ปวดเมื่อยตัว และปวดตรงบั้นเอวนั้นเป็นอาการที่แม่ท้องต้องเผชิญ คุณแม่ควรปรับเปลี่ยนท่านอน🛏️ หรือใช้หมอนตั้งครรภ์หนุนช่วงขา เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยลดอาการปวดหลังได้แล้วค่ะ

👉อาการอยากทานของเปรี้ยว 

หนึ่งอาการยอดฮิตของคุณแม่ท้องอ่อนๆ คืออาการหิวอาหารเปรี้ยว เช่น ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอย่างส้ม🍊 สตอเบอร์รี่🍓และองุ่น🍇 เป็นต้น ยังรวมไปถึงอาการหิวอาหารเมนูแปลกๆในคุณแม่บางรายอีกด้วย

👉มีความไวต่อกลิ่น

คุณแม่ตั้งครรภ์ 3 สัปดาห์จะมีสัมผัสกับกลิ่นที่ไวยิ่งขึ้น👃 แพทย์เรียกอาการนี้ว่า “Super Smell” อาการเหล่านี้มักทำให้คุณแม่รู้สึกเวียนศีรษะ มีอาการคลื่นไส้กับกลิ่นต่างๆรอบตัว ไม่ใช่เฉพาะกับกลิ่นอาหาร แต่ยังรวมไปถึงกลิ่นหอมต่างๆ เช่น กลิ่นของน้ำหอม และอาจรวมไปถึงอาจมีอาการเหม็นสามี จนไม่อยากให้สามีเข้าใกล้ด้วยเช่นกัน 

👉ความต้องการทางเพศเปลี่ยนไป

คุณแม่จะมีความต้องการทางเพศที่เพิ่มขึ้น ในบางรายจะมีความต้องการทางเพศเพิ่มขึ้น หรือในบางรายก็อาจจะมีความต้องการทางเพศที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด อาการนี้จะหายไปก็ต่อเมื่อคุณแม่เริ่มเข้าสู่การตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 2 🤰เป็นต้นไป 

👉รูปร่างมีน้ำมีนวล

คุณแม่จะมีร่างที่อวบยิ่งขึ้น และมีลักษณะมีน้ำมีนวล จึงสังเกตได้ว่าไม่สามารถใส่เสื้อผ้าชุดเดิมได้อีกต่อไป เพราะชุดคับลง👗 จนทำให้คุณแม่หลายๆท่านอาจสงสัยว่าตัวเองทานอาหารเยอะเกินไปหรือเปล่า 


วิธีปฏิบัติตัวสำหรับคุณแม่ท้อง 3 สัปดาห์

✨หยุดการทานยาทุกชนิดที่เคยทานก่อนตั้งครรภ์

คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา💊หรือรับประทานวิตามินใดๆเข้าร่างกาย เพราะยาหรือวิตามินเหล่านั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ได้ เช่น วิตามินเอ

ระมัดระวังตัวมากขึ้น 

คุณแม่ควรใส่ใจดูแลตนเองให้มากขึ้น และหลีกเลี่ยงการเผชิญกับสิ่งแวดล้อมที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทารกในครรภ์ เช่น การใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง น้ำยาล้างห้องน้ำ เป็นต้น และควรหลีกเลี่ยงการยกของหนักด้วย📦 

ลดละเลิกการดื่มแอลกอฮอล์ 

คุณแม่ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด การสูบบุหรี่🚬 รวมไปถึงอาหารที่ไม่มีประโยชน์ด้วยและหันมาทานอาหารที่มีประโยชน์จะดีที่สุดค่ะ ควรหันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะสารอาหารเหล่านั้นจะถูกส่งไปยังทารกผ่านทางสายสะดือ

งดสัมผัสกระบะทรายแมว 

คุณแม่ควรงดการสัมผัสกับอุจจาระของแมว🐈อย่างเด็ดขาด เพราะในอุจจาระ💩แมวจะมีเชื้อโรคอยู่ ซึ่งเชื้อโรคเหล่านั้นจะส่งผลจะกระทบโดยตรง ผ่านการหายใจ หรือผ่านการสัมผัส สามารถทำให้ตัวเชื้อเข้าสู่ปอด และส่งผลถึงเด็กในครรภ์ได้

แจ้งทันตแพทย์ว่ากำลังตั้งครรภ์ 

เพราะการทำฟันนั้น🦷 อาจส่งผลกระทบต่อครรภ์ของคุณแม่ ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์ควรจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือทันตแพทย์ที่คุณได้ทำการรักษา เพื่อการหลีกเลี่ยงขั้นตอนที่อาจจะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์

งดกิจกรรม adventure

คุณแม่ควรงดกิจกรรมโลดโผนทุกชนิด เช่น การออกกำลังกายอย่างหนัก การเดินป่า🧗‍♀️ และชกมวย🥊 เป็นต้น เพราะกิจกรรมเหล่านี้อาจส่งผลกระทบกับเด็กในครรภ์ได้นั่นเองค่ะ

      แม้ว่าการตั้งครรภ์ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 นี้ คุณแม่จะยังคงใช้ชีวิตได้เป็นปกติ แต่คุณแม่ก็ควรระมัดระวังตัวมากขึ้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุต่างๆที่สามารถส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ รวมไปถึงควรให้ความสำคัญกับการพักผ่อน😴 การทานอาหารที่มีประโยชน์ และหันมาดูแลสุขภาพร่างกายให้มากยิ่งขึ้น