post-title

เสริมภูมิต้านทานจากน้ำนมแม่

     อย่างที่เราทุกคนต่างทราบกันมาว่า อาหารชนิดแรกสำหรับเจ้าตัวน้อยก็คือน้ำนมของคุณแม่ นอกจากจะเป็นอาหารชนิดแรกที่ลูกๆสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัยแล้ว ยังเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการเติบโตของเด็กไว้มากมาย มากเสียจนไม่สามารถหาได้จากการดื่มน้ำนมชนิดอื่น วันนี้บทความของเราพาคุณผู้อ่านมาทำความรู้จักกับน้ำนมแม่ในแต่ละระยะเพิ่มขึ้น จนไปถึงประโยชน์ของน้ำนมแม่ในแง่ของการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้เจ้าตัวน้อย จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ💁‍♀️


ทำความรู้จักน้ำนมแม่ในระยะต่างๆ

👉น้ำนมในระยะที่ 1 หรือที่บางท่านอาจเรียกว่าหัวน้ำนม เป็นระยะการหลั่งน้ำนมของคุณแม่ในครั้งแรก กินเวลาประมาณ 1-3 วันของการหลั่งน้ำนม สำหรับน้ำนมในระยะนี้จะมีลักษณะต่างจากนมกล่องที่เราเห็นโดยทั่วไป เพราะจะมีสีที่เหลืองกว่าอย่างสังเกตได้ชัด แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติหรือเป็นสิ่งที่อันตราย เพราะเป็นระยะที่น้ำนมมีสารแคโรทีน ที่เราสามารถพบเจอในผักผลไม้สีส้มได้มากกว่าน้ำนมในระยะหลังๆเท่านั้น น้ำนมฝนะระยะนี้จะมีความสมบูรณ์ในแง่ของสารอาหารสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ ซึ่งก็อย่างที่เราทุกคนต่างทราบว่าสารอาหารเหล่านี้ทำให้เด็กเติบโตอย่างเป็นปกติ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย🛡️ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆที่ช่วยในการขับอุจจาระหรือขี้เทาของเด็กแรกเกิดอีกด้วยค่ะ

👉น้ำนมในระยะที่ 2 เป็นระยะหลังจากที่คุณแม่หลั่งน้ำนมประมาณ 5 วันแรกจนถึง 2 สัปดาห์แรก สำหรับระยะนี้ น้ำนมจะมีสีขาวขุ่นแล้ว ไม่เหลืองเหมือนในระยะก่อนหน้า ยังคงเป็นระยะที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์แก่การเจริญเติบโตของทารกอยู่👶 แต่ในระยะนี้จะมีสารอาหารในกลุ่มไขมันและน้ำตาลเพิ่มขึ้นมาด้วย แต่ก็เพิ่มขึ้นมาในระดับที่เหมาะสม ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของทารกค่ะ

👉น้ำนมในระยะที่ 3 เป็นน้ำนมในหลังการหลั่ง 2 สัปดาห์แรก เป็นช่วงเวลาที่ปริมาณน้ำนมของคุณแม่จะค่อยๆเพิ่มขึ้น🍼 ยังคงอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและเสริมสร้างความสมบูรณ์ของระบบภูมิคุ้มกันเช่นเดียวกับ 2 ระยะแรก นอกจากสารอาหารแล้ว น้านมแม่ยังมีสารที่ทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันและชะลอความแก่หรือความเสียหายของเซลล์ในร่างกาย และยังมีสารที่ส่งเสริมการเจริญของเซลล์ในร่างกายที่เรียกกันว่า Growth factor อีกด้วยค่ะ


ประโยชน์ของน้ำนมแม่ต่อระบบภูมิคุ้มกันของลูก

อันที่จริงแล้วนมแม่มีประโยชน์ต่อทุกๆด้านที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตและความสมบูรณ์ของร่างกายเจ้าตัวน้อย แต่ในบทความนี้ทางเราขออนุญาตให้รายละเอียดในแง่ของประโยชน์ต่อระบบภูมิคุ้มกันดังต่อไปนี้ค่ะ

  1. เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างแอนติบอดี้ในร่างกายของลูก เจ้าแอนติบอดี้นั้นเป็นสารจำพวกโปรตีนหนึ่งในร่างกาย ที่ทำหน้าที่ดักจับเชื้อก่อโรค ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรีย🦠 จนไปถึงไวรัส หรือสารที่มีแนวโน้มจะส่งผลในแง่ลบต่อสุขภาพร่างกายของลูก หากแอนติบอดี้มีความผิดปกติก็จะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันผิดเพี้ยนไป

  2. โอนถ่ายภูมิคุ้มกันให้ลูกได้บางส่วน สำหรับข้อก่อนหน้านี้เราได้พูดถึงโปรตีนตัวหนึ่งที่มีส่วนสำคัญในระบบภูมิคุ้มกันไป นั่นก็คือเจ้าแอนติบอดี้นั่นเอง สำหรับโรคบางโรค หากคุณแม่มีเจ้าแอนติบอดี้ที่สามารถจดจำและดักจับเชื้อก่อโรคอย่างจำเพาะกับบางโรคได้อยู่แล้ว เมื่อเด็กได้ดื่มน้ำนมของแม่ ก็มีโอกาสที่เด็กจะได้รับเจ้าแอนตีบอดี้ที่ทำหน้าที่จดจำเชื้อก่อโรคบางอย่างได้ เด็กก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคนรับเชื้อก่อโรคมา เพื่อให้แอนติบอดี้ในร่างกายตัวเองมาทำความรู้จักเชื้อเหล่านั้นด้วยตนเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการป่วย🤒ตามมาได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม แม้เด็กมีแนวโน้มจะได้รับแอนติบอดี้บางส่วนจากแม่ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเด็กจะไม่ป่วยเมื่อติดเชื้อก่อโรค แต่อาจบรรเทาความรุนแรงได้ในระดับหนึ่งค่ะ

  3. น้ำนมของคุณแม่มีแนวโน้มจะลดโอกาสในการเกิดโรคภูมิแพ้ในเด็กได้ค่ะ🤧

 ประโยชน์ของการให้นมแม่ ที่มีต่อคุณแม่เอง

    เราต่างทราบกันดีว่าการเจ้าตัวน้อยนั้นจะได้รับประโยชน์ในแง่ของสารอาหารจากการดื่มน้ำนมของคุณแม่อย่างแน่นอน แต่อันที่จริงแล้ว การให้นมแม่ยังเป็นประโยชน์ต่อร่างกายของคุณแม่เองด้วย จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันต่อเลยค่ะ

  1. ในช่วงที่ให้น้ำนมลูก คุณแม่จะมีการหลั่งเข้าฮอร์โมนตัวหนึ่งชื่อว่าออกซิโทซิน ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นฮอร์โมนแห่งความรัก ความผูกพัน💞 ส่งผลให้คุณแม่จะมีอารมณ์ที่ดีขึ้นในระหว่างให้นมเจ้าตัวน้อยค่ะ

  2. ในช่วงให้นมลูก ร่างกายของคุณแม่จำเป็นต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติถึงประมาณ 500 กิโลแคลอรี่ เมื่อร่างกายมีอัตราการเผาผลาญพลังงานที่เพิ่มขึ้น🔥 จึงลดโอกาสที่คุณแม่จะเสี่ยงเป็นโรคอ้วนค่ะ

  3. การให้นมลูกยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ🫀 และโรคเบาหวานได้อีกด้วยค่ะ

     จะเห็นได้ว่าน้ำนมของคุณแม่มีประโยชน์มากกว่าที่เราคาดคิดอีกใช่ไหมคะ ดังนั้นการที่เจ้าตัวน้อยจะได้ดื่มนมแม่🤱จนกว่านมแม่จะหมดนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร เด็กควรได้ดื่มน้ำนมของคุณแม่ถึงอายุประมาณ 2 ขวบอยู่แล้ว และหากนมแม่ยังไม่หมดก็สามารถให้ลูกดื่มต่อได้ เพราะในปัจจุบันยังไม่มีน้ำนมประเภทไหนที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์เทียบเท่าน้ำนมของคุณแม่ได้เลยค่ะ