post-title

ทำความรู้จัก "การคลอดธรรมชาติ"

     คุณแม่หลายๆคงกำลังศึกษาว่าการคลอดธรรมชาตินั้นเหมาะกับตัวเองหรือไม่ ซึ่งจริงๆแล้ววิธีนี้อาจจะไม่สามารถใช้กับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูงได้ แพทย์จึงใช้ทำการใช้วิธีการระงับปวดขณะคลอดมาเพื่อลดความเจ็บปวดของการคลอดธรรมชาติ วันนี้ทางเราได้รวบรวมข้อมูลต่างๆมาไว้ให้คุณแม่ทราบพร้อมๆกันแล้วนะคะ💁‍♀️ 


การคลอดธรรมชาติเป็นอย่างไร?

✨คลอดธรรมชาติ (Natural Childbirth) 

หมายถึง การคลอดลูกเองโดยไม่ใช้การผ่าตัด คุณแม่ที่ครรภ์มีความเสี่ยงน้อยหลายคนสามารถเลือกคลอดธรรมชาติได้ แต่คุณแม่บางคนตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง การคลอดธรรมชาติก็อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัย🙅‍♀️ แพทย์จึงอาจแนะนำให้ใช้การผ่าคลอดแทน

คลอดธรรมชาติอาจมีการใช้ยาช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด💊ขณะคลอดหรือใช้เครื่องมือทางการแพทย์เพื่อให้ความช่วยเหลือ ความเจ็บปวดขณะรอคลอดจะแตกต่างกัน ไปในคุณแม่แต่ละคน ขึ้นกับความแรงของการบีบตัวของมดลูก ท่าของทารกในครรภ์และความอดทนของคุณแม่


วิธีการระงับปวดขณะคลอด

 ในปัจจุบันมี วิธีการระงับปวดขณะคลอดหลายวิธีดังต่อไปนี้

💉การฉีดยาลดปวดเข้าหลอดเลือดดำหรือเข้ากล้าม 

วิธีนี้จะช่วยลดอาการปวดได้ดี แต่ในบางครั้งผลของยาระงับ ปวดอาจทำให้คุณแม่และทารกในครรภ์หลับได้😴 และอาจกดการหายใจของทารกหลังคลอด จึงมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา ในการฉีดยา โดยเหมาะที่จะให้ในระยะต้น ปากมดลูกยังเปิดไม่มาก

💉การฉีดยาชาเข้าเฉพาะที่ฝีเย็บโดยสูติแพทย์ 

สูติแพทย์จะฉีดยาชาบริเวณที่จะตัดฝีเย็บ วิธีนี้จะทำได้เมื่อปากมดลูกเปิดหมดแล้ว จึงไม่สามารถระงับปวดจากการบีบตัวของมดลูกขณะรอคลอดได้

💉การบล็อกหลัง (Epidural block) 

โดยวิสัญญีแพทย์ทำการ ฉีดยาชาเข้าช่อง Epidural space ร่วมกับการใส่สาย Epidural catheter ที่บริเวณหลังตอนล่างของคุณแม่ตั้งครรภ์ ในท่านอน ตะแคงหรือนั่ง ซึ่งแพทย์จะฉีดยาชาที่ผิวหนังตรงตำแหน่งที่จะบล็อก จากนั้นใช้เข็มบล็อกแทงเข้าไปในช่องที่เรียกว่า Epidural space ซึ่งอยู่ก่อนช่องประสาทไขสันหลัง แล้วใส่สาย Epidural catheter ผ่านทางรูเข็มให้สายเข้าไปอยู่ใน Epidural space แล้วค่อยดึงเข็มออก ขณะใส่สาย คุณแม่อาจรู้สึกเสียวแปล๊บที่สะโพกหรือขาได้🦵 เนื่องจากสายไปสะกิดเส้นประสาท หลังจากนั้นวิสัญญีแพทย์จะฉีดยาชาเข้าทางสายที่ใส่ไว้ ซึ่งกว่ายาชาจะออกฤทธิ์ระงับปวดได้เต็มที่ ใช้เวลา ประมาณ 10-15 นาที ปริมาณของยาชาที่ให้เพื่อระงับปวด มีความปลอดภัยต่อทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ บางรายอาจทำให้มดลูกบีบตัวลดลงซึ่งจะเป็นอยู่ในระยะเวลาอันสั้น โดยยาชาจะไม่มีผลกับทารกในครรภ์ ทารกจะคลอดออกมาแข็งแรงตามธรรมชาติ วิธีนี้จะช่วยลดความเจ็บปวดขณะรอคลอด ตั้งแต่ระยะแรกจนถึงการคลอดและการตัดฝีเย็บ ลดความ เจ็บปวดเมื่อสูติแพทย์ต้องใช้คีม หรือเครื่องดูดสุญญากาศในการช่วยคลอด และยังสามารถใช้ ต่อเนื่องในการระงับ ความรู้สึกเพื่อผ่าตัดคลอดบุตรทางหน้าท้องถ้าจำเป็น หลังคลอดจึงดึงสาย Epidural catheter ออก อาการชาที่ขาจะค่อยๆ หมดไปในเวลา 4-6 ชั่วโมง⏳ คุณแม่ควรนอนอยู่บนเตียงจนกว่า ขาทั้งสองข้างจะหายชาและกลับมาเป็นปกติ


ผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการบล็อกหลัง

👉ความดันเลือดลดต่ำลงชั่วคราว 

หากคุณแม่มีความดันต่ำลง วิสัญญีแพทย์จะป้องกันโดยการให้น้ำเกลือเข้าทางหลอดเลือดดำก่อนบล็อกหลัง และ ตรวจวัดความดันเลือดเป็นระยะ🩸

👉อาการหนาวสั่น 

อาการหนาวสั่นอาจเกิดขึ้นได้🥶 ถึงแม้ว่าจะไม่ได้บล็อกหลังก็ตาม การให้ความอบอุ่นแก่คุณแม่จะช่วยลดอาการดังกล่าวได้ อาการปวดศีรษะ มักเกิดหลังจากการบล็อกหลังไปแล้ว 1-2 วัน อาการปวดศีรษะจะดีขึ้น และหายได้เองหลังการดื่มน้ำ นอนศีรษะราบ และรับประทานยาระงับปวด บางรายวิสัญญีแพทย์อาจพิจารณาทำการฉีดเลือดของคุณแม่เองเข้าเพื่อไปอุดรูรั่วของเข็ม ทำให้อาการปวดศีรษะหายเร็วขึ้น

👉ระดับการชาสูงเกินไป 

อาการนี้พบได้น้อยมากๆ ซึ่งคุณแม่จะรู้สึกอึดอัด หายใจลําบาก😮‍💨 หากอาการรุนแรง แพทย์อาจต้องตัดสินใจผ่าตัดคลอดฉุกเฉิน

👉อาการปวดหลัง 

อาจเกิดขึ้นจากเข็ม💉ที่ใช้บล็อกหลัง แต่จะเป็นอยู่ชั่วคราวเท่านั้น หายไปเองได้ ภายใน 1-2 วัน
ยาชาออกฤทธิ์ไม่สมบูรณ์ เป็นเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้จากยาชากระจายในช่อง epidural space ไม่สม่ำเสมอ วิสัญญีแพทย์อาจใช้วิธีเลื่อนสาย Epidural catheter หรือต้อง บล็อกหลังใหม่

👉การบาดเจ็บต่อเส้นประสาท 

อาการชาหรืออ่อนแรงของร่างกายส่วนล่างยังคงอยู่ แม้ยาชาจะหมดฤทธิ์แล้ว ส่วนใหญ่จะหายได้เอง และพบภาวะแทรกซ้อนนี้น้อยมาก โดยจะเกิดในรายที่แม่มีโรคทางระบบประสาทอยู่เดิม ภาวะแทรกซ้อนอื่น พบได้น้อย ได้แก่ ปัสสาวะไม่ออก มีเลือดออก ติดเชื้อ หรือมีไข้🤒ใน 24-48 ชั่วโมง

     สรุปได้ว่าคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติโดยใช้วิธีบล็อกหลัง ควรหลีกเลี่ยงการวางวัตถุที่ร้อน หรือเย็น หรือวางของหนักลงบนร่างกายส่วนที่ยังรู้สึกชา ให้นอนพักบนเตียง🛌 ไม่ควร ลุกขึ้นยืนหรือเดินจนกว่าอาการชาจะหายไปหมด โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 4 – 6 ชั่วโมงหลังคลอดค่ะ