ในช่วงเวลาก่อนคลอด คุณแม่จะสังเกตได้ถึงอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ที่คุณแม่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนตลอดการตั้งครรภ์ โดยหนึ่งในอาการใกล้คลอดที่สำคัญ ก็คือการมีมูกเลือดก่อนคลอด🩸 และมูกเลือดแบบไหนที่เป็นสัญญาณเตือนว่าใกล้คลอด เรามาหาคำตอบไปพร้อมๆกันเลยค่ะ💁♀️
การมีมูกเลือดออกทางช่องคลอดระหว่างตั้งครรภ์ เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอะไร?
เป็นสัญญาณทางสุขภาพของการตั้งครรภ์ของคุณแม่ ซึ่งมีดังต่อไปนี้
👉เกิดจากการฝังตัวอ่อนในมดลูก
มูกเลือดนอกจากจะพบในช่วงใกล้คลอด ก็ยังสามารถพบได้ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ค่ะ ซึ่งเกิดจากการที่ตัวอ่อนไปฝังตัวในมดลูก ทำให้มีเลือดไหลปนออกมามูก แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และไม่ถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย🙅♀️
👉เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ในขณะตั้งครรภ์
ในช่วงใกล้คลอดลักษณะของปากมดลูกจะเกิดความเปลี่ยนแปลง คือปากมดลูกจะบางขึ้น ขยายกว้างขึ้น การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้อาจไปกระตุ้นให้มูกเลือดไหลออกมาได้🩸 โดยเฉพาะถ้ามีเพศสัมพันธ์ในลักษณะที่รุนแรง
👉เกิดจากการอักเสบเกี่ยวกับมดลูก
ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีเลือดไหลทางช่องคลอดในขณะตั้งครรภ์ได้ค่ะ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณผู้หญิงถึงควรไปตรวจสุขภาพภายในบ่อย ๆ เพื่อจะได้ตรวจสอบเสมอว่าขณะนี้มีอาการผิดปกติใด ๆ ต่อสุขภาพภายในหรือไม่✅
👉เป็นสัญญาณของการคลอดก่อนกำหนด
คุณแม่หลาย ๆ คนอาจมีภาวะคลอดก่อนกำหนด ซึ่งก็จะสามารถสังเกตเห็นมูกเลือดไหลออกมาพร้อม ๆ กับอาการปวดท้อง และมีอาการเหล่านี้ก่อนจะถึงสัปดาห์ที่ 37🤰
👉คุณแม่มีภาวะน้ำเดิน
ช่วงใกล้คลอดอาจมีภาวะน้ำเดินเกิดขึ้น💦 ซึ่งนอกจากของเหลวใส ๆ ที่จะไหลออกมาแล้ว ก็ยังมีมูกเลือดไหลรวมออกมาด้วย
👉เกิดจากปากมดลูกเปิด
อาการนี้มักอาจมาพร้อม ๆ กับอาการน้ำเดิน เวลาที่ปากมดลูกเปิดและใกล้คลอด จะมีมูกเลือดไหลออกมาด้วย
👉การเซาะแยกถุงน้ำคร่ำ
เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า การกวาดปากมดลูก (Membrane sweeping) ในกรณีที่ครบกำหนดคลอดแล้ว แต่ปากมดลูกคุณแม่ยังไม่ยอมเปิด แพทย์👨⚕️อาจทำการเร่งคลอด และเร่งให้ปากมดลูกเปิด ด้วยการกวาดปากมดลูก เพื่อคลายปากมดลูก อาจทำให้มูกเลือดไหลออกมาหลังจากการกวาดปากมดลูกได้ค่ะ
👉เกิดจากการบาดเจ็บ
การบาดเจ็บจากการกระแทก หรือการประสบอับัติเหตุ ก็สามารถทำให้มูกเลือดไหลออกมาจากช่องคลอดได้ค่ะ ปกติแล้วอาการมูกเลือดไหลนั้นไม่ใช่สัญญาณอันตราย แต่กรณีเช่นนี้อาจจะต้องรีบไปพบแพทย์ เพราะแม้ว่าอาการมูกเลือดไหลจะไม่ได้อันตราย แต่การกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุในระหว่างตั้งครรภ์ อาจเกิดอันตรายต่อแม่และเด็กได้ค่ะ🚼
ทำความรู้จักกับมูกเลือดก่อนคลอด
✨ทำความเข้าใจมูกเลือดก่อนคลอดได้ง่ายๆ ดังนี้
ก่อนที่จะคลอด ปากมดลูกจะต้องมีการขยาย🔎 หรือเรียกว่าปากมดลูกเปิด เพื่อให้ทารกสามารถที่จะเคลื่อนตัวผ่านออกมาได้ ซึ่งเมื่อปากมดลูกเปิดออกแล้ว บริเวณปากมดลูกที่มีทั้งเลือด เนื้อเยื่อต่าง ๆ และมูกต่าง ๆ ดังนั้น เมื่อปากมดลูกเริ่มเปิดออก มูกและเลือดเหล่านี้ก็จะไหลรวมกันออกมา เรียกว่า “มูกเลือดก่อนคลอด” ซึ่งมูกเลือดก่อนคลอดนั้น จะมีมูกและเลือดไหลผสมกันออกมา และจะเกิดขึ้นในช่วงใกล้คลอดเท่านั้น
สีของมูกเลือดเป็นแบบไหน และแต่ละสีแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?
สีของมูกเลือดก่อนคลอดขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล มูกเลือดของคุณแม่อาจจะเป็นสีแดง🩸 สีน้ำตาลหรือสีชมพูก็ได้ และปริมาณของมูกที่ไหลรวมออกมานั้นก็จะมากหรือน้อยไม่เท่ากันค่ะ โดยมูกจะมีลักษณะเป็นวุ้น ๆ หรือคล้ายกับเสมหะที่มีเลือดปน และคุณแม่บางคนอาจจะมีมูกเลือดไหลออกมาหมดเลยทีเดียว คุณแม่บางคนอาจจะมีมูกเลือดไหลออกมาทีละเล็กทีละน้อยค่ะ
โดยสีมูกเลือดใกล้คลอด อาจจะมีสีต่าง ๆ ดังนี้
🩶มูกสีขาวขุ่น
คุณแม่บางรายอาจจะมีมูกลักษณะสีขาวขุ่น ๆ ก็ไม่ต้องตกใจนะคะ มูกเลือดสีขุ่น ๆ ไม่ถือว่าผิดปกติแต่อย่างใดค่ะ
🤍มูกสีใส
คุณแม่บางรายอาจจะมีมูกเลือดใส และไม่ขุ่น อาจจะสับสนกับตกขาวได้ แต่ตกขาวจะไม่มีเลือดปนออกมาเหมือนมูกเลือดก่อนคลอดค่ะ
🤎มูกเลือดสีน้ำตาล
มูกเลือดสีน้ำตาลนี้ คุณแม่อาจจะกังวลว่าเป็นสัญญาณอันตรายหรือเปล่า แต่จริง ๆ แล้วมูกเลือดสีน้ำตาลก็ถือว่าปกติค่ะ
🩷มูกเลือดสีชมพู
มูกเลือดสีชมพู เป็นอีกหนึ่งสีที่อาจพบได้ในคุณแม่ตั้งครรภ์ และไม่ถือว่าเป็นมูกเลือดที่ผิดปกติแต่อย่างใดค่ะ
สรุปได้ว่ามูกเลือดทางช่องคลอดนั้น ไม่ถือว่าเป็นอาการผิดปกติแต่อย่างใดค่ะ ระยะเวลาในการมีมูกเลือดก่อนคลอดของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากันค่ะ บางคนมีมูกเลือดไหลออกวันนั้น แล้วก็คลอดวันนั้นเลย แต่บางคนอาจต้องใช้เวลา 1-2 🕐 วันหลังจากมีมูกเลือดทางช่องคลอด แล้วจึงเริ่มมีอาการเจ็บท้องใกล้คลอด แต่ถ้าคุณแม่รู้สึกว่ามีมูกเลือดหรือมีเลือดออกทางช่องคลอดก่อนสัปดาห์ที่ 37 อาจจะต้องรีบไปพบแพทย์ค่ะ เพราะอาจเป็นไปได้ว่ามีแนวโน้มที่จะเกิดการคลอดก่อนกำหนดได้นั่นเอง