post-title

วิธีเลือกโรงพยาบาลฝากครรภ์ คุณแม่มือใหม่ควรรู้!

     ประเด็นหนึ่งที่เป็นประเด็นสำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์หรือคุณผู้หญิงที่กำลังวางแผนจะมีเจ้าตัวน้อยในอนาคตอันใกล้ คงหนีไม่พ้นเรื่องการครรภ์ เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องทำเพื่อความปลอดภัยของทารกในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ แต่สำหรับคุณผู้หญิงที่พึ่งตั้งครรภ์เป็นครั้งแรก🤰 การฝากครรภ์จึงอาจเป็นเรื่องที่น่ากังวลเพราะอาจเริ่มต้นหาสถานที่ฝากครรภ์ได้ไม่ถูกต้อง วันนี้บทความของเราจึงพาคุณผู้อ่านมาดูว่ามีเรื่องใดที่ต้องพิจารณาบ้าง แต่ก่อนอื่น เรามาเริ่มต้นจากความสำคัญของการฝากครรภ์กันก่อนค่ะ ว่าเหตุใดการฝากครรภ์ถึงเป็นสิ่งที่ต้องทำ ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด🙅‍♀️


ความสำคัญของการฝากครรภ์

  • เป็นการตรวจสุขภาพร่างกายของคุณแม่ไปในตัว ว่าในระหว่างที่ตั้งครรภ์มีประเด็นทางสุขภาพใดที่น่าเป็นห่วงหรือไม่🤰 ถ้าหากมีจะสามารถแก้ไขได้อย่างไรบ้างให้กระทบเจ้าตัวน้อยในครรภ์น้อยที่สุด หากยังไม่มีภาวะทางสุขภาพที่น่าเป็นห่วงอะไร แพทย์เจ้าของครรภ์ก็ยังสามารถแนะนำแนวทางการปฏิบัติตัวของคุณแม่ในระหว่างที่ตั้งครรภ์ได้

  • เป็นการตรวจสุขภาพของทารกในครรภ์ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเพียงโรคภัยไข้เจ็บหรือภาวะแทรกซ้อน แต่ยังหมายถึงการติดตามพัฒนากาารทางด้านร่างกายของทารกในครรภ์👶ว่าเป็นไปอย่างปกติหรือไม่ หากเกิดความไม่ปกติขึ้นแพทย์ก็จะสามารถหาสาเหตุได้อย่างทันท่วงที ส่งผลเสียต่อทารกน้อยที่สุด หรือหากเป็นโรคร้ายแรง จำเป็นต้องยุติการตั้งครรภ์ แพทย์ก็จะสามารถช่วยยุติการตั้งครรภ์ได้ทันเวลา ไม่เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตคุณแม่

  • ช่วยสร้างความสบายใจแก่สมาชิกในครอบครัว เพราะหลังฝากครรภ์ทั้งคุณแม่และเจ้าตัวน้อยในครรภ์จะอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ🧑‍⚕️


     หลักเกณฑ์ในการฝากครรภ์

  • เลือกโรงพยาบาลที่ใกล้บ้าน🏥 หรือโรงพยาบาลที่คุณแม่มีความคิดเห็นว่าสามารถเดินทางไปได้สะดวกและรวดเร็วที่สุด เมื่อมีเหตุฉุกเฉินหรือภาวะแทรกซ้อนจะได้ไปถึงโรงพยาบาลได้อย่างทันท่วงที

  • จะเป็นเรื่องที่ดียิ่งขึ้นหากคุณแม่เลือกฝากครรภ์ในโรงพยาบาลที่คุณแม่มีประวัติคนไข้มาก่อนแล้ว เพราะการที่แพทย์ทราบประวัติของคุณแม่มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นประวัติทางสุขภาพ📑 หรือประวัติเกี่ยวกับการรักษาและการใช้ยา จะทำให้แพทย์สามารถจัดการกับเหตุการณ์ฉุกเฉินได้รวดเร็วมากยิ่งข้ึนค่ะ

  • เลือกแพทย์ที่คุณแม่รู้สึกไว้ใจ โดยสามารถได้จากความถนัดของแพทย์ ประวัติและประสบการณ์ในการทำงาน💼


    เอกสารที่ต้องใช้ในการฝากครรภ์

  • บัตรประจำตัวประชาชนของคุณแม่และคุณพ่อของทารกในครรภ์🪪

  • ประวัติทางสุขภาพของคุณแม่📃 ไม่ว่าจะเป็นประวัติความเจ็บป่วย ประวัติการแพ้ยา ประวัติการรักษา ประวัติการคลอดบุตรในกรณีที่ไม่ใช่การตั้งครรภ์ครั้งแรก รวมถึงประวัติเกี่ยวกับโรคประจำตัวค่ะ

  • ข้อมูลการมีประจำเดือนครั้งสุดท้ายของคุณแม่

      ✨ขั้นตอนในการฝากครรภ์

  1. ตรวจปัสสาวะเพื่อตรวจดูภาวะทางสุขภาพเบื้องต้นรวมถึงโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นของคุณแม่ค่ะ

  2. ชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงเพื่อประเมินว่า ด้วยสรีระของคุณแม่แล้วเด็กควรมีขนาดตัวเท่าไหร่ เสี่ยงที่จะมีภาวะคลอดบุตรยากหรือไม่ค่ะ

  3. ตรวจเลือดเพื่อประเมินภาวะทางสุขภาพเบื้องต้นของคุณแม่🤰

  4. วัดค่าความดันโลหิตเพื่อประเมินว่าคุณแม่มีภาวะความดันโลหิตสูงหรือไม่🩸

  5. ทำการอัลตร้าซาวน์เพื่อดูสรีระและท่าทางของทารกในครรภ์ว่าปกติหรือไม่ มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนใดๆหรือไม่

     หลังฝากครรภ์แล้ว คุณแม่จะได้รับเอกสารที่เรียกว่าสมุดฝากครรภ์📕 ซึ่งเป็นสมุดที่แพทย์เจ้าของครรภ์บันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจครรภ์แต่ละครั้ง นับเป็นสิ่งที่คุณแม่ควรดูแลรักษาให้ดี เพราะเป็นเอกสารที่จำเป็นต้องใช้และเป็นประโยชน์ต่อแพทย์เจ้าของครรภ์สำหรับการตรวจครรภ์ในครั้งถัดๆไปค่ะ อ่านมาถึงตรงนี้ ไม่ว่าคุณผู้อ่านจะเป็นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เป็นคุณผู้หญิงที่มีแผนจะมีเจ้าตัวน้อยในอนาคตอันใกล้ หรือเป็นใครก็ตามที่คนรอบตัวกำลังตั้งครรภ์ก็จะเห็นแล้วนะคะว่าการฝากครรภ์นั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย ดังนั้นหากมีสมาชิกในครอบครัวกำลังตั้งครรภ์ อย่าลืมไปฝากครรภ์ ณ โรงพยาบาลที่ตนเองไว้ใจกันนะคะ