กระดูกเคลื่อนเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อกระดูกสันหลังด้านใดด้านหนึ่งของกระดูกสันหลังหลุดออกจากตำแหน่งที่เหมาะสม อาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น พันธุกรรม การบาดเจ็บ ความเครียดซ้ำๆ หรือการเสื่อมสภาพตามอายุ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องรับทราบว่าเด็กอาจได้รับผลกระทบจากภาวะนี้ได้เช่นกันค่ะ แม้ว่าจะพบได้น้อยในคนอายุน้อย แต่โรคกระดูกเคลื่อนในเด็กอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของพวกเขาได้ค่ะ💁♀️
สาเหตุของโรคกระดูกเคลื่อน
โรคกระดูกเคลื่อนสามารถถูกกระตุ้นได้โดย ปัจจัยหลายประการ รวมถึงสิ่งต่อไปนี้ค่ะ
พันธุศาสตร์🧬
บุคคลบางคนอาจสืบทอดแนวโน้มที่จะพัฒนาโรคกระดูกสันหลังเสื่อมเนื่องจากปัจจัยทางพันธุกรรมบางอย่างค่ะ
การบาดเจ็บ🩼
จากการหกล้ม อุบัติเหตุ หรือการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาอาจทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของกระดูกสันหลัง ซึ่งนำไปสู่ภาวะกระดูกสันหลังเคลื่อนได้ค่ะ
ความเครียดซ้ำๆ🤯
กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวซ้ำๆ หรือความตึงเครียดที่กระดูกสันหลังมากเกินไป เช่น การยกน้ำหนักหรือยิมนาสติก อาจมีส่วนทำให้เกิดอาการนี้ได้เช่นกันนะคะ
ความเสื่อมที่เกี่ยวข้องกับอายุ
การเปลี่ยนแปลงความเสื่อมในกระดูกสันหลัง เช่น โรคข้ออักเสบหรือความเสื่อมของหมอนรองกระดูก🦴 อาจทำให้โครงสร้างที่รองรับอ่อนแอลง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกเคลื่อนค่ะ
การสังเกตอาการของกระดูกเคลื่อน
เมื่อกระดูกเคลื่อน มีสาเหตุหลายประการ อาการทั่วไปที่ต้องระวัง ซึ่งอาจรวมถึงสิ่งต่อไปนี้ค่ะ
อาการบวมและรอยแดง
กระดูกเคลื่อนอาจทำให้เกิดอาการบวมและแดงบริเวณที่ได้รับผลกระทบค่ะ
การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ
กระดูกที่หลุดออกอาจมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ เช่น ไม่อยู่ในแนวเดียวกันหรือมีรูปร่างผิดปกติอย่างเห็นได้ชัดค่ะ🦴
ความเจ็บปวดหรือไม่สบาย
บุคคลนั้นอาจรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่สบายบริเวณที่เคลื่อนตัวค่ะ🥴
การเคลื่อนไหวมีจำกัด
กระดูกที่หลุดมักจำกัดการเคลื่อนไหวตามปกติ ซึ่งทำให้เคลื่อนไหวได้ยากค่ะ
ความเหนื่อยล้า
ความรู้สึกไม่สบายและความเจ็บปวดอาจทำให้รู้สึกเฉื่อยชาตลอดทั้งวันได้ค่ะ🫨
การเปลี่ยนสีผิว
ในบางกรณี ผิวหนังบริเวณกระดูกเคลื่อนอาจมีรอยช้ำหรือมีสีที่ผิดปกติได้เช่นกันนะคะ
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับกระดูกเคลื่อนในเด็ก
หากคุณพ่อคุณแม่สงสัยว่าลูกของคุณมีกระดูกเคลื่อน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง ให้การปฐมพยาบาลทันทีค่ะ และ ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนที่เป็นแนวทางในการปฏิบัติตามได้นะคะ
ติดเฝือก
คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้วัสดุแข็ง เช่น กระดานไม้หรือกระดาษม้วน เพื่อสร้างเฝือกเพื่อตรึงบริเวณที่ได้รับผลกระทบให้กับลูกๆได้ค่ะ
หลีกเลี่ยงการรัดแน่น
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเฝือกแน่นแต่ไม่แน่นจนเกินไปนะคะ เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้อย่างเพียงพอ🩸 คุณพ่อคุณแม่ต้องทำอย่างระมัดระวังด้วยนะคะ
พยายามจัดตำแหน่งให้ถูกต้อง
ส่งเสริมให้ลูกๆของคุณพ่อคุณแม่รักษาแขนขาที่ได้รับบาดเจ็บให้อยู่ในตำแหน่งที่เป็นธรรมชาติจนกว่าความช่วยเหลือทางการแพทย์จะมาถึงค่ะ🚑
จำกัดกิจกรรม
กีดกันเด็กๆไม่ให้วิ่งไปมา🏃♂️ เพราะการวิ่งหรือเล่นอาจทำให้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นได้ค่ะ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บเพิ่มเติมคุณพ่อคุณแม่ต้องอธิยายให้ลูกๆเข้าใจถึงผลกระทบจากการบาดเจ็บด้วยนะคะ
รักษาเฝือกให้แห้ง
หลีกเลี่ยงการปล่อยให้เฝือกสัมผัสกับน้ำ💧 เนื่องจากอาจทำให้อ่อนตัวลงหรือประสิทธิภาพลดลง อาจทำให้กระดูกเคลื่อนมากขึ้นค่ะ
การกินอาหารที่สมดุล
จะช่วยให้ลูกๆของคุณพ่อคุณแม่คงการควบคุมอาหารเพื่อสุขภาพ และได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์จากอาหารทั้ง 5 หมู่🍲 จะช่วยส่งเสริมการรักษาและความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวมได้ค่ะ