post-title

พาลูกออกจากบ้านได้ตอนอายุกี่เดือน?

     คุณผู้ปกครองหลายท่านคงเคยได้ยินว่า ไม่ควรพาเด็กเล็กออกนอกบ้าน ด้วยปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุบัตเหตุ🚘 หรือการติดเชื้อก่อโรค เนื่องจากภูมิคุ้มกันของเด็กนั้นยังไม่แข็งแรงเทียบเท่ากับวัยผู้ใหญ่อย่างเราๆ อาจทำให้เจ้าตัวน้อยเจ็บป่วยได้ง่าย แต่การที่ลูกน้อยได้ออกจากบ้านก็มีข้อดีในด้านการสร้างเสริมพัฒนาการเช่นเดียวกัน แบบนี้เราควรจะพาลูกออกจากบ้านดีหรือไม่ และหากต้องการพาออกจะพาออกได้เมื่ออายุขั้นต่ำกี่ขวบ วันนี้บทความของเรามีคำตอบให้คุณผู้อ่านค่ะ💁‍♀️


ทารกอายุกี่ขวบจึงพาออกจากบ้านได้

ช่วงอายุที่เหมาะสมในการเริ่มออกจากบ้านของทารกคือทารกที่มีอายุมากกว่า 6 เดือนขึ้นไปค่ะ 

เพราะหากอายุน้อยกว่านั้นภูมิคุ้มกัน🛡️ของเด็กจะอ่อนแอมากๆเมื่อเทียบกับวัยผู้ใหญ่ อีกทั้งเป็นช่วงอายุที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคไม่ครบด้วย ดังนั้นการพาทารกที่อายุน้อยมากๆออกจากบ้านจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เจ้าตัวน้อยติดเชื้อก่อโรคได้ง่ายค่ะ


ความเสี่ยงที่ผู้ปกครองต้องตระหนัก เมื่อพาทารกออกจากบ้าน

เสี่ยงต่อการติดเชื้อก่อโรค

เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอมาก จึงติดเชื้อก่อโรคและแสดงอาการของโรคได้ง่าย🦠

ความเสี่ยงต่อการเจออนุภาคที่แพ้ในสิ่งแวดล้อม

 หากเจ้าตัวน้อยไม่ได้ติดเชื้อก่อโรคอะไร ก็ยังมีอนุภาคต่างๆที่ถึงแม้จะไม่ใช่เชื้อก่อโรคแต่ก็เป็นสารก่อภูมิแพ้ของลูกน้อยอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นละอองเกสรดอกไม้🌸 ละอองสารเคมี ละอองฝุ่นอนุภาคเล็กจนถึงใหญ่ สารพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย

ในกรณีที่พาลูกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน

อาจต้องเจอกับความเสี่ยงในแง่ของความสะอาดและความสดใหม่ของอาหาร🍲 หากอาหารไม่สดหรือหมดอายุก็จะทำให้เด็กเป็นอันตรายได้

ในกรณีที่เป็นเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย

 เริ่มเคลื่อนที่โดยการคลานหรือเดินเองได้ ต้องระวังความเสี่ยงเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นรถชน🚘 หรือการที่เจ้าตัวน้อยของเราเดินไปหยิบสิ่งไม่พึงประสงค์รับประทาน จนไปถึงการที่เด็กอาจหกล้มได้

ความเสี่ยงในการที่เด็กจะเมาพาหนะที่ใช้เดินทาง

ไม่ว่าจะเป็นการเมารถ เมาเรือ เมาเครื่องบิน ซึ่งเมื่อเมาแล้ว เด็กๆอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน🤮และเกิดอาการงอแงตามมา ซึ่งอาจเป็นการรบกวนผู้โดยสารคนอื่นๆที่นั่งมาร่วมกันได้

ความเสี่ยงต่อการเจออาชญากร

ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศเรายังมีข่าวสารเกี่ยวกับเด็กหาย การลักพาตัว🫢 และการค้ามนุษย์อย่างประปราย ทั้งที่ถูกตีแผ่แก่สาธารณชน และอีกหลายกรณีที่ยังไม่ถูกตีแผ่ ดังนั้นหากจากพาลูกๆออกไปเที่ยวนอกบ้าน ก็ควรตระหนักรู้ถึงความเสี่ยงข้อนี้ด้วยค่ะ

ความเสี่ยงในแง่ของสภาพภูมิอากาศ

ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าประเทศไทยของเรานั้นเป็นเมืองร้อน และขึ้นชื่อเรื่องอุณหภูมิที่สูงมากของอากาศอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นฤดูใด หากเจ้าตัวน้อยต้องตากแดด☀️ เจอความร้อนนานๆ หรือเจออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ก็อาจทำให้เด็กป่วยได้ค่ะ


สิ่งที่ต้องเตรียมตัวเมื่อพาเจ้าตัวน้อยออกนอกบ้าน

ยา

หากอ้างอิงจากหัวข้อที่กล่าวมาก่อนหน้าในเรื่องความเสี่ยงของการออกจากบ้านแล้ว แน่นอนว่าสิ่งแรกๆที่คุณผู้อ่านน่าจะนึกถึงก็คือยา💊ใช่ไหมคะ ซึ่งก็ถูกต้องค่ะ ยากกลุ่มที่คุณผู้ปกครองควรมีติดตัวไว้เสมอเมื่อพาเด็กออกจากบ้านจะเป็นยาในกลุ่มบรรเทาอาการแก้ปวดลดไข้ ยาแก้แพ้ ยาแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ยาบรรเทาอาการคัดจมูก ยาทา จนไปถึงกลุ่มอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ยกตัวอย่างเช่น พลาสเตอร์ติดแผล สำลี แอลกอฮอล์ล้างมือล้างแผล เบตาดีน น้ำเกลือ

ของใช้ประจำตัวของลูกน้อย

 ไม่ว่าจะเป็นแพมเพิร์ส ผ้าอ้อม จนไปถึงของเล่นหรือขนม🍬ที่เจ้าตัวน้อยให้ความสนใจบ่อยๆ สิ่งของเหล่านี้จะช่วยคุณพ่อคุณแม่ได้มากหากลูกน้อยเริ่มมีอาการงอแงค่ะ

หากเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว

ควรจัดที่นั่งสำหรับเด็กโดยเฉพาะด้วยคาร์ซีท ไม่ควรให้เด็กนั่งบนตักหรือนั่งที่เดียวกับคุณพ่อคุณแม่ เพราะในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้น การนั่งคาร์ซีทนั้นช่วยป้องกันอันตรายให้กับเด็กได้มากกว่าการนั่งตักผู้ปกครองมากๆค่ะ อย่างไรก็ตาม คาร์ซีทนั้นก็มีหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบนั้นก็มีความเหมาะสมกับเด็กๆแต่ละช่วงวัยแตกต่างกันออกไป ทางที่ดีคุณผู้ปกครองควรพาเด็กๆไปลองนั่งคาร์ซีทก่อนตัดสินใจซื้อมาติดตั้งบนรถยนตร์ส่วนตัวค่ะ และไม่ปล่อยลูกให้คลาดสายตาหรือฝากให้คนอื่นดูโดยเด็ดขาด👀

     อ่านมาถึงตรงนี้ คุณผู้อ่านก็จะเห็นแล้วนะคะว่าการพาเจ้าตัวน้อยออกจากบ้านนั้นมีความเสี่ยงค่อนข้างหลากหลาย แต่ก็มีประโยชน์ต่อพัฒนาการของเด็กเช่นเดียวกัน👶ค่ะ การพาเด็กออกไปเปิดหูเปิดตามจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางความคิด พัฒนาการทางด้านการเข้าสังคม และพัฒนาการทางด้านร่างกายที่มากขึ้น ดังนั้น หากต้องการพาเด็กๆออกจากบ้านเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการจริงๆ ก็สามารถพาเด็กๆไปสถานที่ที่ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างห้องสมุดสำหรับเด็ก หรือสวนสาธารณสำหรับเด็ก นอกจากจะเป็นสภานที่ที่กิจกรรมข้างในค่อนข้างส่งเสริมการเรียนรู้แล้ว ยังเป็นสถานที่ที่ไม่แออัดอีกด้วย ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อของเด็กๆค่ะ