post-title

เด็กกินเผ็ดได้ไหม

     อาหารที่มีรสจัดจ้านและรสเผ็ดนั้น ถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับผู้คนในแถบโลกตะวันออกมาอย่างช้านานรวมถึงผู้คนในประเทศไทยด้วย ในประเทศที่ของอาหารสจัดจ้านแพร่หลายขนาดนี้ การหาอาหารรสอ่อนๆค่อนไปทางจืดอาจกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้นมา สำหรับผู้ใหญ่หลายๆท่านอาจฝืนที่รับประทานอาหารรสเผ็ดได้บ้าง แต่สำหรับเด็กๆนั้นสามารถทำได้หรือไม่ จำเป็นต้องให้พวกเขาฝึกกินเผ็ดหรือไม่ ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ วันนี้บทความของเรามีคำตอบให้คุณผู้อ่านค่ะ แต่ก่อนอื่น เราไปเริ่มต้นรู้จักกับความเผ็ดก่อนดีกว่าค่ะ ว่ามีอาหารอะไรสามารถให้รสเผ็ดได้บ้าง💁‍♀️


อาหารที่ให้รสเผ็ด

เป็นที่ทราบกันทั่วโลกว่าผักหนึ่งชนิดที่ให้ความเผ็ดร้อนแน่ๆก็คือพริกนั่นเองค่ะ 

แม้พริกเองจะมีหลายชนิด🌶️ แต่ละชนิดก็ให้ความเผ็ดได้ไม่เท่ากัน แต่พริกที่แทบจะไม่ได้ให้ความเผ็ดร้อนเลยอย่างพริกเขียว ก็ยังสามารถส่งกลิ่นเฉพาะตัวของผักตระกูลพริก ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่ไม่สามารกรับประทานเผ็ดได้เลย รู้สึกถึงกลิ่นที่ขึ้นจมูกและตีความเป็นความเผ็ดร้อนได้ค่ะ

เครื่องเทศอื่นๆ 

หากพูดถึงประเทศไทยของเราและประเทศส่วนใหญ่ในแถบเอเชีย สิ่งที่พอจะเป็นที่นึกถึงคงไม่พ้นผัดประเภทต้นหอม กระเทียม🧄 เมล็ดพริกไทย ซึ่งแม้จะไม่ได้ส่งความเผ็ดร้อน แสบลิ้นขณะรับประทานได้เหมือนพริก แต่ก็ยังส่งกลิ่นเฉพาะตัวที่ทำให้รู้กสึกเผ็ดร้อนขึ้นจมูกได้ และหากพูดถึงเครื่องเทศอื่นๆที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักเช่นเดียวกันแม้ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยโดยตรง ก็คงหนีไม่พ้นพืชตระกูลวาซาบิที่ใช้รับประทานคู่กับซูชิในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็สามารถสร้างความเผ็ดร้อนเฉพาะตัวขึ้นจมูกได้เช่นเดียวกันค่ะ


เด็กสามารถรับประทานอาหารเผ็ดได้หรือไม่

สามารถรับประทานได้ในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ 

หากจะให้กำหนดเกณฑ์ปริมาณที่เหมาะสมนั้นจะสามารทำได้ค่อนข้างยาก เพราะความอ่อนไหวในการรับความเผ็ดของแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นเรื่องของพันธุกรรมด้วย🧬 ลิ้นของบางคนมีตัวรับรสเผ็ดที่ไม่ได้อ่อนไหวต่อโมเลกุลที่ทำให้เกิดความเผ็ด ก็จะสามารรับประทานอาการเผ็ดๆได้มากกว่าคนที่ลิ้นมีตัวรับรสเผ็ดที่อ่อนไหวกับโมเลกุลสร้างความเผ็ดมาก เมื่อรับประทานอาการที่ทำให้เกิดความเผ็ดร้อนเข้าไปนิดเดียวก็จะรู้สึกเผ็ดแล้วค่ะ

การรับประทานเผ็ดสามารถฝึกฝนได้หรือไม่

อันที่จริงการรับประทานเผ็ดนั้นเป็นเรื่องที่ฝึกฝนได้ค่ะ แต่จะฝึกได้มากน้อย ใช้เวลานานแค่ไหนก็เป็นเรื่องที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน เพราะการรับประทานเผ็ดไม่ใช่เรื่องของทักษะหรือพัฒนาการค่ะ แต่เป็นการฝึกให้ตัวรับรสเผ็ดของลิ้น👅นั้นเคยชินกับรสเผ็ดในปริมาณมากๆ สูงขึ้นไปเรื่อยๆจนทำให้เกิดความเคยชิน เมื่อตัวรับรสเผ็ดเกิดความเคยชินแล้ว ร่างกายก็ต้องใช้โมเลกุลที่สร้างความเผ็ดจำนวนมากขึ้นจึงจะทำให้เราเริ่มรู้สึกเผ็ดได้ เราก็จะค่อยๆรับประทานเผ็ดได้มากขึ้นนั่นเอง หากคุณผู้ปกครองต้องการฝึกให้เจ้าตัวน้อยรับประทานอาหารรสเผ็ดได้ อาจเริ่มต้นฝึกได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ค่ะ

เลือกเครื่องเทศที่มีกลิ่นฉุนอ่อนๆมาประกอบอาหารให้เด็กได้ลองก่อน ยกตัวอย่างเช่น กุยช่าย หัวไชเท้า ต้นหอม หอมแดง ซึ่งแทบไม่สสร้างความเผ็ดร้อนเลย แต่ยังส่งกลิ่นฉุนขึ้นจมูก👃 เพื่อให้เด็กๆเคยชินกับกลิ่นเฉพาะตัวของผักประเภทเครื่องเทศค่ะ

สำหรับเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย มีช่วงอายุประมาณ 5-6 ขวบแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ระบบย่อยอาหารของเด็กมีความแข็งแรงขึ้นมาบ้างแล้ว อาจใช้พริกสดปริมาณเล็กน้อยเป็นส่วนประกอบในการประกอบอาหารให้ลูกได้ลองชิม😋 เพื่อเป็นการทดสอบว่าตัวรับความเผ็ดร้อนของลูกเรามีความอ่อนไหวต่อโมลเลกุลที่สร้างความเผ็ดจากพริกได้มากน้อยแค่ไหน หากรับประทานไปจำนวนเล็กน้อยแล้วเด็กๆแทบไม่รู้สึกเผ็ดเลย รับประทานได้สบายๆ ก็แปลว่าลูกของเราสามารถรับประทานเผ็ดได้โดยธรรมชาตินั่นเอง แต่หากรับประทานเข้าไปนิดเดียวก็เกิดอาการเผ็ดแล้วก็แปลว่าเด็กเป็นคนที่รับประทานเผ็ดไม่ได้เลยค่ะ

หากเด็กเป็นคนรับประทานเผ็ดไม่ได้เลย🥵 แต่อยากฝึกให้รับประทานได้บ้าง คุณผู้ปกครองอาจจะต้องใช้พริกให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ให้เด็กได้ลองรับประทานก่อน ไม่ให้รู้สึกเผ็ดร้อนจนไม่มีความสุขในการรับประทานอาหาร จากนั้นจึงค่อยๆเพิ่มปริมาณพริกที่ใช้ประกอบอาหารไปเรื่อยๆค่ะ

     อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารรสเผ็ดก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากมองถึงข้อดี พืชผักกลุ่มเครื่องเทศที่ก่อให้เกิดความเผ็ดร้อนบางชนิดนั้นก็มีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยชะลอวัยเซลล์ในร่างกายของเราได้ บางชนิดช่วยส่งเสริมให้ระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ช่วยในการลดคอเลสเตอรอลและกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตได้🩸 บางชนิดมีสารที่ช่วยต้านการอักเสบของเซลล์ร่างกายได้ แตการรับประทานเผ็ดมากไปก็มีข้อเสียเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบ เพิ่มกรดในกระเพาะซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแสบท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นหากจะให้ลูกรับประทานอาหารรสเผ็ด ก็ควรรับประทานในปริมาณที่พอดี ไม่ควรรับประทานมากไปค่ะ