post-title

โรคนอนไม่หลับในเด็ก

     เชื่อว่าคุณผู้อ่านหลายๆท่ายต้องเคยประสบปัญหานอนไม่หลับกันมาบ้างใช่ไหมคะ💤 อาจจะด้วยความวิติกกังวลกับชีวิตประจำวัน ความเครียดระหว่างวัน แต่คุณผู้อ่านทราบไหมคะว่า ปัญหาเหล่านี้ก็เกิดขึ้นได้กับเด็กๆเช่นเดียวกัน โดยจะเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอะไรได้บ้าง ต้องแก้ไขอย่างไร เราไปดูกันเลยค่ะ💁‍♀️


 สัญญาณที่บ่งบอกว่าลูกกำลังมีปัญหานอนไม่หลับ

✨คุณผู้ปกครองต้องใช้เวลาในการกล่อมลูกให้นอนนานมาก

เด็กตื่นเองตอนกลางคืนบ่อยๆ

เด็กหงุดหงิดง่าย🤬 ควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดี สาเหตุหนึ่งมาจากการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ

การที่คุณผู้ปกครองเริ่มรู้สึกว่าตนเองอดนอน เนื่องจากต้องใช้เวลาค่อนข้างมากในการส่งลูกเข้านอน หากลูกตื่นขึ้นมาเองกลางดึกหลายๆครั้ง ก็ต้องใช้เวลานานในการปลอบเด็กๆให้กลับไปนอนอีกครั้ง

ลักษณะปัญหาการนอนหลับด้วยตนเองไม่ได้ที่พบบ่อย

✨ปกติแล้ว อาการนอนผวาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในเด็กเล็ก และเมื่อเกิดอาการนอนผวาขึ้น จะทำให้เด็กรู้สึกไม่มั่นคงเวลาตื่น อาจส่งเสียงร้องไห้งอแง😭 ซึ่งก็เป็นปกติที่คุณผู้ปกครองจำเป็นต้องเข้าไปโอ๋ช่วยให้ลูกกลับไปนอนบ่อยๆ พฤติกรรมในลักษณะนี้แม้จะช่วยให้เด็กสามารถกลับไปนอนต่อได้จริง แต่เป็นการสร้างเงื่อนไขให้เด็ก ว่าจะต้องมีคุณผู้ปกครองคอยช่วยอยู่เสมอ จึงจะกลับไปนอนต่อได้ หากคุณพ่อคุณแม่ไม่เข้ามาช่วยปลอบเสียทีก็จะไม่นอนต่อ พยายามเชื่อมโยงความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยเมื่อมีผู้ปกครองเข้ามาปลอบเท่านั้น แทนที่จะเชื่อมโยงกับสิ่งของบนเตียง ไม่ว่าจะเป็นผ้าห่มประจำตัว หมอนข้าง หรือตุ๊กตาที่เด็กๆชอบ🧸 และนอนต่อด้วยตนเองให้ได้

✨เด็กบางคนไม่สามารถนอนหลับได้ด้วยตนเองได้หากไม่เกิดเงื่อนไขบางอย่างก่อนหลับ เช่น บางคนอาจต้องให้คุณผู้ปกครองพาขับรถเล่นรอบเมืองก่อน🚙 เพราะจะรู้สึกง่วงนอนและหลับได้เมื่ออยู่บนคาร์ซีทของรถที่กำลังเคลื่อนที่ หรืออยู่บนเตียงหรือเปลที่กำลังถูกไกวหรือเคลื่อนที่ หากจะพูดง่ายๆก็คือ เด็กสร้างเงื่อนไขการนอนหลับของตนเองผูกไว้กับการเคลื่อนไหวของสิ่งที่กำลังนอนอยู่ ซึ่งก็หมายความว่าเด็กนอนบนที่นอนนิ่งๆที่ควรจะนอนด้วยตนเองไม่ได้เช่นเดียวกันค่ะ

✨เด็กบางคนไม่ยอมนอนคนเดียว หรือกลัวแม้กระทั่งการตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอคุณพ่อคุณแม่อยู่รอบข้าง ต้องมีคุณพ่อคุณแม่อยู่ใกล้ๆเวลานอนเสมอ ไม่จำเป็นต้องนอนด้วยกันก็ได้ ซึ่งก็เป็นการสร้างเงื่อนไขให้ไม่สามารถนอนหลับด้วยตนเองได้เช่นเดียวกันค่ะ


สาเหตุนอกเหนือจากการสร้างเงื่อนไขการนอนของเด็ก

👉รับสื่อหรือข่าวสารที่ก่อให้เกิดความเครียดหรือความตื่นเต้น ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงเร็ว มีดนตรีที่ดังหรือรุนแรง การดูภาพยนตร์แอคชั่นหรือสยองขวัญ👻

👉การให้เด็กรับประทานอาหารปริมาณมากก่อนเข้านอน รวมถึงอาหารที่มีคาเฟอีน☕️

👉การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนส่งเด็กเข้านอน📱 เนื่องจากเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์จะส่งแสงสีฟ้า (Blue light) ออกมากจากหน้าจอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยับยั้งการหลั่งสารเคมีที่ทำให้รู้สึกง่วงนอน เรียกว่า สารเมลาโทนิน (Melatonin) เมื่อไม่รู้สึกง่วงนอนจึงทำให้นอนหลับยากและนอนไม่หลับในที่สุดค่ะ

👉เด็กๆงีบหลับในช่วงกลางวันมากเกินไป จนทำให้ไม่รู้สึกง่วงในช่วงกลางคืนนั่นเองค่ะ

👉ความเครียดจากสิ่งที่เจอมาในชีวิตประจำวัน เช่น การถูกผู้ใหญ่รอบข้างดุ การถูกเพื่อนกลั่นแกล้ง ปัญหาเรื่องเรียน ความกระทบกระเทอนทางด้านจิตใจ เช่น ที่บ้านทะเลาะกันเสียงดัง💥 มีการลงไม้ลงทือต่อกันและกัน การย้ายโรงเรียน

👉สิ่งแวดล้อมในห้องนอนและนอกห้องนอนไม่เอื้ออำนวยต่อการนอนหลับ ไม่ว่าจะเป็นเสียงที่ดังเกินไป หรือแสงที่อาจจะลอดเข้าห้องมาได้และจ้าเกินไปในระหว่างนอนหลับ

👉โรคประจำตัวและการใช้ยาบางชนิด💊

การแก้ไขปัญหาเด็กนอนไม่หลับเบื้องต้น

👉หากเด็กนอนไม่หลับเพราะสร้างเงื่อนไขการนอนผูกไว้กับอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่ตนเอง เช่น คุณพ่อคุณแม่👨‍👩‍👧 หรือการต้องนอนในสิ่งแวดล้อมที่เคลื่อนที่อย่างที่ยกตัวอย่างไปก่อนหน้า ให้คุณผู้ปกครองขจัดเงื่อนไขเหล่านั้นจากการที่ไม่เข้าไปให้เงื่อนไขนั้น แม้เด็กจะร้องไห้งอแงเพราะต้องการเงื่อนไขนั้นๆก็ต้องใจแข็ง ให้ลูกรู้สึกง่วงและหลับไปเองโดยไม่ต้องพึ่งเงื่อนไขอื่นๆค่ะ

👉หากเด็กนอนไม่หลับจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมก่อนนอนอย่างที่ได้ยกตัวอย่างไป ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารที่มาเกินไประหว่างนอน การงีบหลับกลางวันที่มากเกินไป😴 การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนเข้านอน ให้คุณผู้ปกครองพยายามปรับให้เด็กทำพฤติกรรมเหล่านั้นลดลงค่ะ

👉หากเกิดจากความเครียดและความวิตกกังวลในแต่ละวันของเด็ก สามารถบรรเทาได้เบื้องต้นด้วยการพูดคุยและซัพพอร์ตเด็กๆ แต่ถ้าเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้ด้วยตนเองได้ แนะนำให้รับคำปรึกษาจากจิตแพทย์เด็กค่ะ

👉หากนอนไม่หลับจากโรคประจำตัวและการใช้ยาบางชนิด แนะนำให้คุณผู้ปกครองปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ค่ะ ว่าสามารถปรับแก้ตัวยาหรือการรักษาอย่างไรได้บ้างเพื่อให้การนอนหลับของเจ้าตัวน้อยดีขึ้น

     จะเห็นแล้วนะคะว่าปัญหาการนอนไม่หลับของเด็กๆนั้นไม่ได้มีวิธีแก้ที่ซับซ้อนอะไร อาจต้องใช้เวลาและความอดทนที่ค่อนข้างมากของคุณผู้ปกครองในการค่อยๆปรับแก้พฤติกรรมของเด็ก อย่างไรก็ตาม หากพยายามปรับแก้ด้วยตนเองแล้วปัญหาการนอนไม่หลับยังไม่ดีขึ้น ก็ควรเข้าพบแพทย์ค่ะ👨‍⚕️ เพราะการนอนหลับถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญค่อพัฒนาการของเด็กมากๆ หากเด็กไม่ได้รับการนอนหลับที่ดี อาจเป็นปัจจัยในการทำให้พัฒนาการทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจของเด็กไม่ดีเท่าที่ควร ก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาวได้ค่ะ